สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส รายงานตัวเลขการขาดดุลงบประมาณสาธารณะของประเทศ มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 5.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อปี 2566 โดยคิดเป็นมูลค่า 154,000 ล้านยูโร (ราว 6.07 ล้านล้านบาท)


สถิติดังกล่าว ถือว่าสูงกว่าที่กระทรวงเศรษฐกิจฝรั่งเศสประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.9% ของจีดีพี โดยภาครัฐให้เหตุผลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยสำคัญ


ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐกิจจานุเบกษาของรัฐบาลฝรั่งเศส เผยแพร่ประกาศ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งลงนามโดยนายกาเบรียล อัตตาล นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงอีก 10,000 ล้านยูโร (ราว 394,538.61 ล้านบาท) โดยครึ่งหนึ่งจะเป็นการลดงบประมาณใช้จ่ายสำหรับทุกกระทรวง ต่อยอดจากที่มีการลดรายจ่ายไปแล้ว 16,000 ล้านยูโร (ราว 631,261.77 ล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณ 2567


นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.เศรษฐกิจของฝรั่งเศส กล่าวว่า “หาได้น้อยก็ต้องใช้น้อย” พร้อมทั้งเชื่อมโยงการที่ธนาคารกลางของประเทศ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ร่วมด้วยความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมืองโลก


ขณะเดียวกัน เลอ แมร์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความกังวล ต่อการที่บริษัทวิเคราะห์และจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศหลายแห่ง ลดเครดิตของฝรั่งเศส จึงยืนยันว่า มาตรการทั้งหมดมีความจำเป็น เพื่อให้ฝรั่งเศสรักษาเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 4.4% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดลงมาแล้ว.

เครดิตภาพ : AFP