คาร์ลุชโช ซาร์โทริ หนุ่มใหญ่ชาวอิตาลีวัย 54 ปี ผู้ชื่นชอบการเล่นสกีเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายเมื่อเดือน ม.ค. ปีก่อน ระหว่างทำกิจกรรมที่เขารัก

ซาร์โทริ โดนกลบฝังอยู่ใต้หิมะอยู่นานถึง 23 ชม. หลังจากเกิดหิมะถล่มลงมาในบริเวณที่เขากำลังเล่นสกีอยู่ แต่เขากลับรอดมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าร่างกายจะบอบช้ำและต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งเขาก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ซาร์โทริ เล่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น กระทั่งทีมแพทย์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งยังไม่สามารถหาคำอธิบายอย่างมีเหตุผลได้ แต่ก็ระบุว่า ซาร์โทริ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์มาก ซึ่งอาจช่วยให้เขารอดมาได้

อุบัติเหตุหิมะถล่มใส่และกลบฝัง ซาร์โทริ เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. 2566 ระหว่างที่เขากำลังวาดลวดลายสกีอยู่ที่เทือกเขาวาลบาเดีย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของอิตาลี 

หิมะหลายตันทับอยู่เหนือร่างของ ซาร์โทริ หลังจากเกิดเหตุ และเขาต้องติดอยู่ข้างใต้นั้นอยู่นานถึง 23 ชม. ท่างกลางอุณหภูมิที่ลดต่ำลงถึง -15 องศาเซลเซียส

ในวันต่อมา ทีมกู้ภัยก็มาถึงจุดเกิดเหตุและคาดว่าจะพบศพของเขา แต่กลับเจอ ซาร์โทริ ที่ยังมีชีวิตอยู่ หนำซ้ำยังสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้ด้วย

ซาร์โทริ ได้รับความช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาล กระทั่งทีมแพทย์ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขารอดชีวิตในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร นักสกีหนุ่มใหญ่เล่าว่าตอนที่ทีมกู้ภัยเจอเขานั้น เขายังมีสติและอุณหภูมิร่างกายของเขาอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส เข้าข่ายระดับ 3 ของอาการไฮโปเทอร์เมีย (ภาวะตัวเย็นเกินไป) ที่ถือว่าอันตรายมาก 

ตามข้อมูลขององค์กรการกุศล Sierra Avalanche Association ที่คอยให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยในการดูแลตัวเองระหว่างเล่นกีฬาฤดูหนาว ระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากโดนหิมะถล่มทับส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการหายใจไม่ออกหรือไม่มีอากาศหายใจ ซึ่งยิ่งให้ความช่วยเหลือได้เร็วเท่าไหร่ก็มีโอกาสรอดตายได้มากเท่านั้น โดยอัตราการรอดชีวิตใน 15 นาทีแรกหลังเกิดเหตุคือ 95% แต่เมื่อผ่านไป 35 นาที อัตรานี้จะลดลงเหลือเพียง 37% 

ซาร์โทริ ระหว่างทำกิจกรรมสุดโปรด

ซาร์โทริ โชคดีเพราะว่าหิมะที่ถล่มทับเขาก่อตัวเป็นช่องว่างที่เปิดให้อากาศจากพื้นผิวด้านบนเข้ามาถึงจุดที่เขาโดนฝังอยู่ได้ ขณะเดียวกันก็กลายเป็นช่องที่รักษาอุณหภูมิไว้ได้และปกป้องร่างของเขาจากความหนาวเย็นได้ในระดับหนึ่ง ทั้งหมดนี้ทำให้เขายังคงรอดชีวิตอยู่จนกระทั่งทีมกู้ภัยมาถึง

ทีมแพทย์ยังกล่าวชมร่างกายที่แข็งแรงอย่างมากของเขา ทั้งที่ ซาร์โทริ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เขาบอกว่าตัวเองชอบเล่นกีฬา แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องอาหารการกินเพื่อสุขภาพเท่าไหร่นัก เขายังคงดื่มไวน์และเบียร์ แต่เขาไม่สูบบุหรี่

อย่างไรก็ตาม ซาร์โทริ ยอมรับว่าเขากลัวมากตอนที่เกิดเหตุ เขารู้ดีว่าต้องไม่ผล็อยหลับ เพราะถ้าเขาหลับเมื่อไหร่ก็เท่ากับถึงจุดจบ เขาขยับมือที่เคลื่อนไหวได้เพียงข้างเดียวตลอดเวลา และพยายามขุดรูเพื่อให้อากาศเข้ามาถึงจุดที่เขาโดนฝัง

แม้ว่าเขาจะกลัวมากว่าหัวใจเขาอาจจะหยุดเต้นได้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และพยายามตั้งสมาธิที่จะมีชีวิตอยู่ในถึงที่สุด และโชคดีที่ทีมกู้ภัยหาตัวเขาเจอทันเวลา

หลังจากรักษาตัว ซาร์โทริ ต้องหัดเดินใหม่อีกครั้ง เท้าขวาของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่ได้คล่อง เช่นเดียวกับมือขวาของเขาที่ยังกำมือไม่ค่อยได้ แต่ส่วนอื่น ๆ นั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว

ซาร์โทริ ยังบอกว่าเขากลับไปเล่นสกีบนภูเขาอีกครั้ง แม้ว่าครอบครัวของเขาขู่ว่าจะ “ฆ่าเขาทิ้ง” เสีย ถ้าเขากลับไปวาดลวดลายบนเนินสกีอีก

ที่มาและเครดิตภาพ : nypost.com