เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 มี.ค. ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ สารดี สว.(สอบสวน) สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบชิ้นส่วนของมนุษย์ อยู่บริเวณริมถนนทางลงทางด่วนอุดรรัถยา เชื่อมต่อถนนทางหลวงหมาย 9 บางปะอิน-บางบัวทอง มุ่งหน้าบางบัวทอง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 77 หมู่ 3 ต.โพแตง อ.บางไทร รายงานให้ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ณัลถวัศน์ อ่อนโยน ผกก.สภ.ช้างใหญ่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน แพทย์โรงพยาบาลบางไทร เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางหลวง จากทางด่วนอุดรรัถยา จะออกถนนทางหลวง ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นผิวการจราจรและไหล่ทาง มีการปรับดินใหม่ ข้างทางพบมีร่องรอยไฟไหม้ทุ่งนา และไหม้ป่าหญ้าข้างทาง ใกล้กันเป็นคลองส่งน้ำ ตรวจสอบในซากของกองเพลิงที่ไหม้แล้ว พบกะโหลกศีรษะของมนุษย์ 1 ชิ้น บริเวณโดยรอบพบร่องรอยป่าหญ้าถูกเพลิงไหม้มาได้ระยะหนึ่ง พบแผ่นกระเบื้องยางจำนวนมาก และเศษลวดถูกไฟไหม้ โดยทำการร่อนเศษผงขี้เถาและเศษดิน ไม่พบชิ้นส่วนของมนุษย์เพิ่มเติม และไม่พบวัสดุที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผา ในเบื้องต้นแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์ยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะของมนุษย์ มีร่องรอยถูกไฟเผา

สอบถาม นายธวัชชัย แสงคำ อายุ 29 ปี ตำแหน่งหัวหน้าชุดแผนกซ่อมบำรุงทางด่วน เปิดเผยว่า ขณะกำลังตรวจเส้นทางที่กำลังปรับปรุงทั้งพื้นผิวถนนไหล่ทางและระบบไฟส่องสว่าง เหลือบไปพบเห็นชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สอบนางประชิด ทับเสถียน อายุ 61 ปี เล่าว่า จุดเกิดเหตุ มีการเผาทุ่งนาแล้วลุกลามมาที่ป่าหญ้าริมถนนหลายวันแล้ว บริเวณนี้จะใกล้กับคลองส่งน้ำ และบ่อน้ำขนาดใหญ่ จะมีคนหลายพื้นที่เข้ามาหาปลา โดยเฉพาะในวันหยุด มีการมาตั้งเต็นท์ค้างแรมหาปลา ตอนนี้คนในพื้นที่ไม่มีใครหายตัว

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นชิ้นส่วนของศีรษะของมนุษย์ รอผลการตรวจยืนยันของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน การตรวจของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นชิ้นส่วนของเก่าหรือของใหม่ ในเบื้องต้นในพื้นที่ยังไม่พบการรับแจ้งบุคคลสูญหาย ซึ่งจะต้องทำการทำการสืบสวนต่อไป.