บทความนี้จะมานำเสนอ 5 ประเภทเหล็กก่อสร้างที่พบบ่อย พร้อมรายละเอียดและตัวอย่างการใช้งานของแต่ละประเภท ไปดูกันเลย !

แบบเหล็กก่อสร้างมีอะไรบ้าง ?

1. เหล็กเส้นกลม (Round Bar)

  • ลักษณะ : แท่งเหล็กกลมเรียบ ผิวเรียบ
  • คุณสมบัติ : ยืดหยุ่นสูง ต้านทานแรงดึงได้ดี
  • การใช้งาน : เสริมคอนกรีตเสริมเหล็ก (RCC) ฐานราก คาน พื้น

2. เหล็กเส้นข้ออ้อย (Deformed Bar)

  • ลักษณะ : แท่งเหล็กกลม มีรอยบากเป็นเกลียวตามแนวยาว
  • คุณสมบัติ : ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ทนแรงดึงและแรงอัด
  • การใช้งาน : เสริมคอนกรีตเสริมเหล็ก เสา คาน พื้น

3. เหล็กรูปพรรณ (Structural Steel)

  • ลักษณะ : รูปทรงหลากหลาย เช่น ตัวซี (C) ตัวไอ (I) ตัวเอช (H) กล่อง (Rectangular)
  • คุณสมบัติ : แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักมาก
  • การใช้งาน : ใช้กับโครงสร้างอาคาร โครงสร้างสะพาน เสาเข็ม

4. เหล็กแผ่นรีดร้อน (Hot Rolled Steel Plate)

  • ลักษณะ : แผ่นเหล็กหนา ผิวสัมผัสหยาบ
  • คุณสมบัติ : แข็งแรง ทนทาน ทนความร้อนสูง
  • การใช้งาน : ใช้กับผนังอาคาร ถังเก็บน้ำ หรือโครงสร้างเครื่องจักร

5. เหล็กแผ่นรีดเย็น (Cold Rolled Steel Plate)

  • ลักษณะ : แผ่นเหล็กบาง ผิวสัมผัสเรียบ
  • คุณสมบัติ : เรียบเนียน ตัดแต่งง่าย ทนทานต่อการกัดกร่อน
  • การใช้งาน : ใช้กับหลังคา ฝ้าเพดาน ตัวถังรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์


ปัจจัยในการเลือกแบบเหล็กก่อสร้าง

1. ประเภทของโครงสร้าง

  • อาคาร : โครงสร้างอาคารมีหลากหลายรูปแบบ เช่น อาคารสูง อาคารชั้นเดียว โรงงาน โกดัง ซึ่งแต่ละแบบมีแรงดึงที่แตกต่างกัน อันจะส่งผลต่อขนาดและประเภทของแบบเหล็กก่อสร้างที่ควรใช้
  • สะพาน : สะพานมีหลายประเภท เช่น สะพานข้ามแม่น้ำ สะพานลอย สะพานรถไฟ แต่ละแบบต้องรับน้ำหนักและแรงกระแทกที่แตกต่างกัน ควรเลือกแบบเหล็กก่อสร้างให้เหมาะสมกับประเภทสะพาน
  • ถังเก็บน้ำ : ถังเก็บน้ำมีหลายขนาดและรูปทรง ต้องการเหล็กที่มีความแข็งแรง ทนทาน และป้องกันการกัดกร่อน

2. แรงดึง แรงอัด และแรงเฉือนที่โครงสร้างต้องรับ

  • แรงดึง : เกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างถูกยืดออก เช่น เหล็กเส้นในคาน
  • แรงอัด : เกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างถูกบีบอัด เช่น เสาอาคาร
  • แรงเฉือน : เกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างถูกเลื่อนไถล เช่น รอยต่อระหว่างแผ่นเหล็ก

3. สภาพแวดล้อมการใช้งาน

  • สภาพอากาศ : พื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น เหล็กอาจเกิดสนิมได้ง่าย ควรเลือกแบบเหล็กก่อสร้างที่ทนทานต่อการกัดกร่อน
  • สารเคมี : พื้นที่ที่มีสารเคมี เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ควรเลือกเหล็กที่ทนทานต่อสารเคมี
  • แรงสั่นสะเทือน : พื้นที่ที่มีแรงสั่นสะเทือน เช่น เครื่องจักร ควรเลือกเหล็กที่มีความเหนียวสูง


จะเห็นได้ว่า แบบเหล็กก่อสร้างมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป การเลือกแบบเหล็กก่อสร้างที่เหมาะสมกับงานจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยในการดำเนินงาน