จากกรณี ชายแต่งตัวดีขับรถกระบะมาติดต่อขอยืมข้าวของภายในวัดเกาะแก้วเกษฎาราม ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวนหลายรายการ มูลค่ากว่า 50,000 บาท อ้างว่า ไปจัดงานบุญภายในหมู่บ้านจัดสรรใกล้กับวัด จนเวลาผ่านไปหลายวัน กลับไม่นำของมาคืน พอสอบถามไปที่หมู่บ้าน กลับไม่พบว่ามีการจัดงานทำบุญแต่อย่างใด จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.นครหลวง กระทั่งนำมาสู่การจับกุม นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ที่บ้านเช่า อ.บางปะอิน จงพระนครศรีอยุธยา โดยยอมรับว่า นำเอาของไปขาย อีกทั้งยังก่อเหตุมาแล้ว 4 วัด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พ.ต.ท.กิตติพงศ์ กิจก้าวเจริญกุล รอง ผกก.สส.สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังไปขยายผลจับกุมผู้รับซื้อของจากในวัด เป็นพ่อค้าขายอุปกรณ์ไฟฟ้าย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อ นายณัฐวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี โดยมีของกลางเครื่องใช้ไฟฟ้าจากหลายวัดในท้ายรถกระบะ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า รับซื้อของทั้งหมดมาจาก นายสุรชัย จริง แต่ที่ซื้อเพราะอีกฝ่ายอ้างว่า เพิ่งไปประมูลมาจากวัดสวนแก้ว หากรู้ความจริงว่าเป็นของที่ขโมยมา คงไม่กล้ารับซื้อไว้แน่นอน

ทั้งนี้ นายณัฐวัฒน์ ยังอ้างด้วยว่า ก่อนหน้านี้แม่ของ นายสุรชัย ได้โทรศัพม์มาข่มขู่จะเอาเงิน 20,000 บาท เพื่อไปประกันตัวลูกชาย ถ้าไม่ให้ก็จะซัดทอดเรื่องรับซื้อของโจร ด้วยความกลัวจึงยอมให้เงินไป จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ทำให้ตนเก็บของทั้งหมดขึ้นรถจะเอาไปคืนวัด แต่ยังไม่ทันเอาไปคืน ก็มาโดนจับกุมเสียก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การดังกล่าว เนื่องจาก นายณัฐวัฒน์ เคยมีประวัติต้องโทษคดีลักทรัพย์มาก่อน จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับซื้อของโจร ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.