ตามที่ “น้องมายด์” สิริวิมล ประมงคล นักกีฬายกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย ที่เพิ่งคว้า 2 เหรียญเงิน กับ 1 เหรียญทองแดง ในศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2024 “ไอดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ คัพ” รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ที่ศูนย์ประชุมขุนเลิศโภคารักษ์ ม.ราชภัฏภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ออกมาร่ำไห้ทวงถามเงินรางวัลค้างจ่ายจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ระบุข้อความว่า “ก่อนหน้านี้นักยกน้ำหนักหลายคนยังไม่ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ค้างจ่ายมานาน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแจ้งว่าได้อนุมัติแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว อยากทราบว่าเงินรางวัลจะออกวันไหน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคน” นั้น

ในประเด็นดังกล่าวทาง “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ “ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้หารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. โดย พล.อ.ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้ว นายเกียรติกร สุภากรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ที่อยู่ระหว่างการร่วมชมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2024 ที่ จ.ภูเก็ต ได้พูดคุยและชี้แจงกับ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งจากการพูดคุยกันนั้น ทางกองทุนฯ ได้ชี้แจงกระบวนการต่างๆ ให้กับนักกีฬาเข้าใจและรับทราบทั้งหมดแล้ว โดยตัวของนักกีฬาเข้าใจดีและรู้สึกเสียใจที่ให้สัมภาษณ์ออกไปทำให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เกิดความเสียหาย และคนเข้าใจผิด โดยนักกีฬาบอกว่าได้ไปพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักมวยและทราบว่า เงินรางวัลของเพื่อนที่เป็นนักมวยได้รับจากกองทุนฯ แล้ว จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมของนักกีฬายกน้ำหนักยังไม่ได้รับ

ซึ่งในรายของ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล เจ้าหน้าที่กองทุนฯ ได้ทำเบิกจ่ายเงินรางวัลไปแล้ว โดยเงินรางวัลจะทยอยเข้าบัญชีของนักกีฬาอัตโนมัติ ติดขัดเพียงรายการเดียวคือ รายการ “ไอดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ริยาด 2023 ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-19 ก.ย.66 ซึ่ง สิริวิมล ได้รับ 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์-คลีนแอนด์เจิร์ก-น้ำหนักรวม จะได้รับเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์เหรียญละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 750,000 บาท ผู้ฝึกสอน 20 % ของเงินรางวัลนักกีฬา เป็นเงิน 150,000 บาท และสมาคมอีก 30 % ของเงินรางวัลนักกีฬา 225,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,125,000 บาท อยู่ระหว่างการแก้ไขข้อมูลเอกสารการเบิกจ่ายดำเนินตามขั้นตอนให้โดยเร็วที่สุด ซึ่งนักกีฬาเข้าใจดี เพราะฝ่ายการคลังกำลังเร่งเบิกจ่ายให้โดยเร็วที่สุด