เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานปราบปรามการลักลอบนำเข้า กักตุน สุกร หรือซากสุกรโดยผิดกฎหมาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คณะทำงานฯ ยังคงเดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำเข้าหรือกักตุนสุกร หรือซากสุกรโดยผิดกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง เพราะการลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามาจำหน่ายราคาถูก ส่งผลกระทบต่อผลผลิตภายในประเทศ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ ในรอบเดือนที่ผ่านมา คณะทำงานฯ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เข้าตรวจสอบและขยายผลการจับกุมผู้กระทำผิดทั่วประเทศ รวม 34 แห่ง สามารถตรวจค้นและอายัดซากสัตว์ 7 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นครราชสีมา จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร พร้อมดำเนินการอายัดของกลาง เนื้อสัตว์และซากสัตว์ อันอาจเป็นความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 47,437.47 กิโลกรัม

นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1-4 ยังได้ลงพื้นที่บูรณาการในการตรวจร้านค้า/สถานประกอบการต่างๆ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะแนวชายแดนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนและซากสัตว์ผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย โดย กก.ตชด.34 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำขนโคเถื่อนเข้าไทยในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมของกลาง รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนสุโขทัย 1 คัน โคมีชีวิตเพศผู้ จำนวน 26 ตัว และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ซากสุกรและซากสัตว์กว่า 47,000 กิโลกรัม ที่ถูกอายัดไว้นั้น จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้คณะทำงานฯ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ สืบสวนหาข่าว พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังในการลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป