สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่า กองทัพยูเครนรายงาน กองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองเชอร์นิฮิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 60 คน


ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นกับเมืองเชอร์นิฮิฟ ยิ่งเน้นย้ำความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ในการที่พันธมิตรตะวันตกต้องเร่งเพิ่มการมอบความสนับสนุนด้านการป้องกันทางอากาศให้กับยูเครน และกล่าวด้วยว่า ยูเครนควรได้รับการคุ้มกันทางอากาศแบบเดียวกับอิสราเอล


ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว เซเลนสกีกล่าวว่า กองทัพยูเครนกำลังประสบกับปัญหาใหญ่ครั้งล่าสุด นั่นคือ การไม่มีขีปนาวุธและระบบป้องกันที่เพียงพอ จากการที่โรงไฟฟ้า “ทรีพิลสกา” ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาดใหญ่ที่สุดของยูเครน ผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับกรุงเคียฟ และเมืองอีกหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียง ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีอย่างหนัก เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา


อนึ่ง ความล่าช้าของบรรดาพันธมิตรตะวันตกในการมอบความสนับสนุนให้แก่ยูเครนในระยะหลัง สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับรัฐบาลเคียฟ โดยเฉพาะการที่สภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ยังคงชะลอการลงมติงบประมาณช่วยเหลือยูเครนก้อนใหม่ มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) เซเลนสกีกล่าวว่า หากไม่ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว กองทัพยูเครนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย และ “ประเทศอื่นจะถูกรัสเซียรุกรานเช่นกัน”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES