สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่า รัฐบาลออกคำสั่ง ให้พนักงานรัฐและเอกชนหยุดอยู่บ้านเป็นเวลา 2 วัน เนื่องจากระดับน้ำในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ อยู่ในระดับวิกฤติ ทำให้เกิดวิกฤติการณ์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ในประเทศ

นายดาเนียล โนโบอา ประธานาธิบดี ออกคำสั่ง “ระงับวันทำงาน” ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ โดยกล่าวว่า เป็นผลพวงมาจากสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม และการกระทำที่ทุจริตและประมาทของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในการปกปิดความร้ายแรงของวิกฤติการณ์ครั้งนี้ ทำให้ไฟดับไปนานถึง 6 ชั่วโมง

แถลงการณ์ของรัฐบาลเมื่อวันพุธ ระบุว่า อ่างเก็บน้ำของเขื่อนมาซาร์ ว่างเปล่า และเขื่อนปาเตมีน้ำอยู่เพียงร้อยละ 4 ในขณะที่ เขื่อนโคคาโคโดซินแคลร์ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใหญ่ที่สุดของประเทศ มีน้ำต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตกว่าร้อยละ 40

อนึ่ง ผู้นำเอกวาดอร์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน และขอให้นายอันเดร อาร์โรโบ ลาออกจากตำแหน่ง รมว.พลังงาน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี รัฐบาลระบุในแถลงการณ์ว่า “การสอบสวนบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงและนายอาร์โรโบ ปกปิดข้อมูลที่สำคัญต่อระบบพลังงาน คำเตือนที่ส่งให้คณะกรรมการวิกฤติการณ์พลังงาน ถูกระงับและยกเลิก ทำให้ไม่ได้รับการแจ้งเตือนที่ทันการณ์”

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการ เพื่อดำเนินคดีกับ “ผู้กระทำผิดทั้ง 22 คน ซึ่งพยายามทำร้ายชาวเอกวาดอร์”

วิกฤติการณ์ในเอกวาดอร์ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างโคลอมเบีย ระงับการส่งออกพลังงาน เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำอยู่ในระดับใกล้วิกฤติเพราะภัยแล้ง

มากไปกว่านั้น ในวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. นี้ จะมีการลงประชามติตัดสินการใช้มาตรการที่เข้มงวด ต่อกลุ่มอาชญากรที่ทำให้เกิดสงครามนองเลือด ทำให้ผู้นำเอกวาดอร์เชื่อว่า เหตุการณ์ทั้งสอง มีความเกี่ยวข้องกับบรรยากาศทางการเมือง

“พวกเขาทำลายเราโดยการทำร้ายภาคพลังงาน และหาเสียงอย่างสกปรก เพราะพวกเขากังวลว่า ฝ่ายที่ ‘เห็นด้วย’ จะชนะ” โนโบอากล่าว

ในอดีต เอกวาดอร์เคยเป็น “ป้อมปราการ” สำหรับบรรดาผู้ผลิตโคเคนรายใหญ่ ก่อนจะตกอยู่ในวิกฤติ หลังกลุ่มผู้ค้าข้ามชาติขยายตัว และใช้ท่าเรือในประเทศขนส่งยาเสพติด ไปยังสหรัฐและยุโรป

ในเดือน ม.ค. 2567 ประธานาธิบดีประกาศสภาวะ “ความขัดแย้งภายใน” กับกลุ่มอาชญากรประมาณ 20 กลุ่ม ซึ่งเกิดขึ้นหลังพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ หลบหนีออกจากเรือนจำ และยังไม่สามารถจับตัวได้จนถึงปัจจุบัน

นายโนโบอาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และส่งทหารเข้าควบคุมเรือนจำของประเทศ ส่งผลให้เกิดสงครามประสาท และสมรภูมิรบของแก๊งค้ายาเสพติด ที่เชื่อมโยงกับแก๊งในประเทศเม็กซิโกและโคลอมเบีย

อนึ่ง นายโนโบอาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ถือเป็นผู้นำมีอายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของเอกวาดอร์ โดยโนโบอารับตำแหน่งต่อจากนายกีแยร์โม ลาสโซ ที่ตัดสินใจยุบสภา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงมติถอดถอน โนโบอามีวาระการดำรงตำแหน่ง 18 เดือน ซึ่งเป็นการนับจากวาระที่เหลือของลาสโซ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES