เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยริวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากระบบรายงานโรคเมื่อวันที่ 16-22 เม.ย. ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาลประมาณ 1,088 ราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่ากว่าๆ และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5 ราย ในจำนวนนี้มี 4 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ส่วนอีก 1 ราย ฉีดวัคซีน 2 เข็ม นานแล้ว ทั้งนี้ เราคาดการณ์ว่าหลังเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีการเดินทางไปมาหาสู่จำนวนมาก จะมีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย ต้องจับตาใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งปลัด สธ. ได้มีการประชุมอีโอซี เพื่อเตรียมการณ์ทั้งเตียง ยา เวณภัณฑ์รับมืออยู่แล้ว ตอนนี้ประเมินแล้วยังสถานการณ์ยังอยู่ในระดับสีเขียว อย่างไรก็ตาม อยากเชิญชวนฉีดเข็มกระตุ้น ซึ่งตอนนี้มีคำแนะนำให้ฉีดประจำปีเริ่มเดือน พ.ค. พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเราเตรียมทั้งวัคซีนต่อสายพันธุ์ดั้งเดิม และวัคซีน 2 สายพันธุ์ ในสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน

สำหรับกรณีแรงงานเมียนมาเสียชีวิต และตรวจ ATK 2 ขีด ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า มีปอดอักเสบ มีการติดเชื้อแน่นอน แต่รายนี้ไม่ได้มีการฉีดวัคซีนเลย และไม่ได้รับการรักษา กำลังสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนั้นจะเป็นเห็นว่า การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยลดอาการรุนแรง และการเสียชีวิต

ทางด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 ว่าข้อมูลปัจจุบันอาการเหมือนโอมิครอนสายพันธุ์อื่นๆ แต่บางคนมีอาการตาแดง มีขี้ตา อย่างไรก็ตามคนป่วยในไทยประมาณ 20 กว่าราย อาการตาแดงยังไม่เด่น แต่ที่เห็นชัดคือที่อินเดียที่พบในผู้ป่วยเด็ก ส่วนผู้ใหญ่มีประมาณ 1-2 ราย ทางโซเชียลมีเดีย แต่คนทั่วไปที่ติด อาการยังเป็นกลุ่มเดิมคือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก เมื่อยตามตัว ดังนั้นอาการคล้ายๆ กัน ส่วนตาแดงเป็นบางคน ส่วนมากเป็นเด็กที่ตาแดง ทั้งนี้ในประเทศอื่นๆ ไม่ค่อยพูดถึงอาการตาแดง แต่จริงๆ แล้วในอดีตก็มีการพูดถึงการติดโควิดแล้วมีอาการตาแดงอยู่แล้ว ในส่วนของไทยเรา มีผู้ป่วยที่ต้องติดตาม คิดว่าสักพักคงจะมีข้อมูลของไทยเอง

เมื่อถามว่า ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก ระบุว่าการรับมือ XBB.1.16 ต้องฉีดวัคซีน 4 เข็ม แต่ยอดฉีดกลุ่มเสี่ยงไทยมีเพียง 11% นพ.ธเรศ กล่าวว่า เราใช้คำว่าเข็มกระตุ้น ซึ่งตอนนี้ได้วางระบบการฉีดพร้อมกันทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ขณะนี้กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยนั้นมีประมาณ 2 ล้านคน จึงขอเชิญชวนมาฉีด ขออย่ากังวลเรื่องอันตราย ซึ่งเราฉีดกันมา 2 ปี แล้ว จากข้อมูลเทียบกับการลดความรุนแรง ถือว่าคุ้มค่า และมีการทดลองว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด สามารถฉีดร่วมกันได้ ไม่มีอันตราย คนที่ยังไม่เคยฉีดเลย ก็จะต้องฉีด 2 เข็ม ที่จริงมีการศึกษาว่า จะรวมวัคซีน 2 ตัวในเข็มเดียวด้วย แต่อยู่ระหว่างการศึกษา.