เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.อก.บช.ทท. ร่วมกันแถลงมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567

พล.ต.ท.ศักย์ศิรา กล่าวว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงาน เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่ โดยในส่วนของการท่องเที่ยว นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้ตำรวจท่องเที่ยวเป็นหน่วยปฏิบัติและประสานงาน และให้สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว หมายเลข 1155 รวมถึงแอปฯ “Tourist Police i lert u” เป็น One-Stop service เชื่อมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วย วางมาตรการป้องกันเหตุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทุกพื้นที่

โดยสั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศเตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของกำลังพล ยานพาหนะ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่นำมาใช้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในสถานที่จัดงานสงกรานต์ที่จะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก 86 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวจะบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยังเตรียมพร้อมศูนย์ Call Center สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ซึ่งเชื่อมต่อการบริการกับศูนย์ 191 และ 1669 รองรับการแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมโอเปอเรเตอร์ ภาษาไทย อังกฤษ รัสเซีย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น รวมถึงแอป ฯ “Tourist Police i lert u” สำหรับให้นักท่องเที่ยวดาวน์โหลดเพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้ด้วย

พล.ต.ท.ศักย์ศิรา กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นของขวัญวันสงกรานต์ให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ดำเนินการสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย ผ่านโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) 33 แห่งทั่วประเทศ เช่น ถนนข้าวสาร กทม. ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ถนนคนเดินบางลา จ.ภูเก็ต และ Walking Street พัทยา โดยตำรวจท่องเที่ยวจะทำงานร่วมกับหน่วยร่วมบูรณาการ กลุ่มภาคีเครือข่ายทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชน ขับเคลื่อนมาตรการเพื่อความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งผลจากโครงการนี้ ทำให้เกิดอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มเติม รวม 1611 คน ซึ่งเป็นกลุ่มภาคประชาชน พนักงานร้านสะดวกซื้อ พนักงานรักษาความปลอดภัยสถานบริการ และพนักงานโรงแรม เป็นกลุ่มที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติม พัฒนาระบบควบคุมสั่งการในพื้นที่ต่าง ๆ ให้เชื่อมต่อกับศูนย์รับแจ้งเหตุและควบคุมสั่งการใหญ่ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (Command Center) และรถบริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่ (Mobile car) ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนในสถานที่จัดงานสงกรานต์สำคัญทั่วประเทศด้วย

พล.ต.ท.ศักย์ศิรา ยังกล่าวด้วยว่า ตำรวจท่องเที่ยวทุกนายถูกปลูกฝังให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย Service Mind ตามสโลแกนของหน่วยงาน คือ Your First Friend หรือเพื่อนคนแรกของคุณ สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นอกจากหน่วยงานภาคีด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังได้พัฒนาเครือข่ายการติดต่อประสานงานระหว่างตำรวจท่องเที่ยวและสถานทูตต่าง ๆ ในประเทศไทย รวมถึงขยายความร่วมมือไปยังสถานกงสุลต่างประเทศที่ประจำในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ร่วมกันดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยอาศัยกลไกทางการทูตในการประชาสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมดูแลนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่ง จัดทำ VDO Animation ประชาสัมพันธ์สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรรู้เมื่ออยู่ในประเทศไทย (Dos and Donts) ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ-จีน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ประจำอยู่ที่สนามบินนำไปประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวระหว่างรอกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลให้บ้านเมืองเรามีความปลอดภัย ตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวมาถึงจนกระทั่งเดินทางออกจากประเทศไทย ถ้าบ้านเมืองปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ก็ย่อมปลอดภัยสำหรับคนไทยด้วยเช่นกัน.