คนที่กลายเป็นสายขายขำที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ที่คนหมั่นไส้ตั้งแต่คำ “ลาออกเพื่อรับผิดชอบ” แต่ก็แค่สลับเก้าอี้จากหัวหน้าพรรค มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ ดูไปๆ ก็เหมือนไม่ได้สูญเสียอะไร คิดว่า หลายคนก็คงยังเชื่อว่า “อำนาจแท้จริง” ของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่คนที่มีข่าวว่าป่วยมาจะเดือนแล้ว

ที่บ้งหนักคือ ในการเสวนาเรื่อง “พรรคการเมืองแบบไหนที่คนไทยต้องการ” ที่จัดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. นพ.ชลน่าน พูดโต้งๆ เลยว่า มั่นใจว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยอยู่ครบ 4 ปี ไม่มีการยุบสภาแน่นอน อาจจะมีการปรับเปลี่ยน มีพรรคอื่นๆ เข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเงื่อนไขอื่นที่เป็นเหตุผลเหมาะสม แต่ไม่ใช่การยึดอำนาจ หรือยุบสภาด้วยเหตุการณ์ไม่ปกติ   

ที่เด็ดที่สุดคือ นพ.ชลน่าน ว่า “ไม่เคยมีการพูดว่าแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะยุบสภา แต่โอกาสความเป็นไปได้มี หากร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นที่ต้องการของประชาชน เกิดกระแสเรียกร้องบริบทการเมืองที่เหมาะสม ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลมอบอำนาจไปให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ หากทำงานเข้าตาและประชาชนเรียกร้อง เหตุใดจะต้องยุบสภา”

คนฟังได้แต่พูดไม่ออก เพราะ..เธอลืมไปหรือเปล่า…ว่าเมื่อวันที่ 2 ส.ค. พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ‘เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตันหาทางออกให้ประเทศ’ นพ.ชลน่าน เอง บอกว่า จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาล และก่อให้เกิดวิกฤติการณ์ต่างๆ ของประเทศเป็นวาระแห่งชาติ

“เริ่มจากมติ ครม. ในการประชุมครั้งแรก ให้มีการทำประชามติ และจัดตั้ง ส.ส.ร. ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ รัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นี่คือแถลงการณ์ที่เขาขุดมา เป็นดิจิทัล ฟุตพรินต์

แล้วต่อมา ไปให้สัมภาษณ์เรื่องส่งเสริมอนามัยเจริญพันธุ์ ส่งเสริมให้คนมีบุตรเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยมีอัตราการเกิดต่ำ และบอกว่า ประชุมร่วมแพทยสภา มีอาจารย์แพทย์บอกว่า การส่งเสริมการมีลูกไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากคือ ทำอย่างไรให้หาคู่สมรสให้ได้ก่อน คือถึงไม่ใช่ความคิด นพ.ชลน่าน แต่ควรไหมที่เอามาพูด?

มันมีเซนส์แบบอาจคิดว่าตลก แต่เชื่อว่าหลายคนคงไม่ตลกด้วย เหมือนเยาะเย้ยว่าหาผัวให้ได้เถอะ …อีกคนที่ตอนมอบนโยบายกลายเป็นที่ฮือฮาพอสมควรคือ “บิ๊กอุ้ม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ พูดถึงเรื่องหนี้สินครู และมีแนวคิดแบบแปร่งๆ ประเภท ไปสอนครูก็นั่งรถรวมกัน ไปงานแต่งใส่ซอง 20 บาท แล้วไปช่วยล้างจานเอา 

ก็ไม่รู้ว่าพูดเล่นพูดจริง?? แต่กลายเป็นที่เอาไปล้อเลียนกันสนุกสนาน ทำให้รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบวมบ้าง รัฐบ้งบ้าง หรือในการประชุม ครม. นัดแรก “เสี่ยนิด”นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง มีแนวคิดเรื่องแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการสองรอบ เล่นเอาอึ้งกันทั้งเมือง เพราะเหมือนเอาฐานคิดแบบคนมีฐานะดีอยู่แล้วมาใช้

ปัญหาคือหนี้ส่วนมากมันจ่ายต้นเดือน เงินเดือนเข้าครึ่ง หักหนี้หมดเหลือพันห้าทำอย่างไรล่ะ? กว่าจะถึงวันที่ 15 ที่เงินเดือนออกอีกรอบ จะให้ไปกู้นอกระบบมาใช้หรือ? สุดท้ายนโยบายนี้แทนที่จะว้าวก็กลายเป็นว้าย ต้องออกมากลับลำว่า เป็นแค่ทางเลือก แต่สุดท้ายจะจ่ายจริงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลนั่นแหละ ที่จ่ายเงินเดือนข้าราชการ

นี่แค่ยกตัวอย่างมาบางส่วน ยังมีอีกตั้งหลายเรื่อง ปรับวิธีการสื่อสารอย่าให้คนหัวเราะเอาก็ดี.