ไม่เท่านั้นข่าวการปรับครม.ครั้งนี้ยังกระทบชิ่งไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเก้าอี้ส้มหล่นของ “ประธานวันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาชาติ ที่ต่างฝ่ายต่างออกออกมาเคลียร์ใจกันวุ่น

อย่างไรก็ตามในภาวะที่บรรยากาศการปรับ ครม. กำลังคุกรุ่น  ประจวบเหมาะกับช่วงฤดูไฟป่ากำลังโหมหนักในพื้นที่ภาคเหนือนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ต่อเนื่องมาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์กลางเดือน เม.ย.นี้  หลายจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่นพิษ PM2.5 ทุบสถิติทะยานขึ้นอันดับ 1 ของโลกอยู่หลายวัน จนหลายฝ่ายเป็นห่วงปอดของคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสาดน้ำสงกรานต์ตามนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  

อีกทั้งเชียงใหม่เรียกว่าเป็นสนามประลองกำลังระหว่างฝ่ายค้านคือ พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทยเพราะเป็นพื้นที่สัญลักษณ์เมืองหลวงเก่าของคนเสื้อแดงที่วันนี้ถูกตีแตกพ่ายกลืนพื้นที่เป็นสีส้ม หากจะทวงพื้นที่กลับมาก็ต้องขยันแข่งขันกันทำแต้มเพื่อให้ได้ใจชาวบ้านกลับคืนมา จึงเห็นทั้งผู้นำพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยขยันลงพื้นที่กันแทบทุกอีเวนท์

ในเรื่องหมอควันไฟป่าที่กำลังกระพือทั่วเมืองเหนือนี้ อยู่ๆ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีบิ๊กป๊อด พล...พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้ากระทรวง โดยเพิ่งสร่างศึก สปก.รุกเขาใหญ่ กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในกำกับของ ผู้กองธรรมนัส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เจ้ากระทรวง จากพรรคการเมืองเดียวกัน

ล่าสุดออกมาเปิดศึกใหม่ แฉแรงในทำนองว่าไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ เกิดจากคนการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ที่พัวพันทำให้เกิดการจุดไฟเผาป่า รอรับนักการเมืองลงพื้นที่เพื่อไปทำคอนเทนต์ หรือออกแอคชั่นแก้ปัญหาไฟป่า

ร้อนไป สส. ของทั้ง 2 พรรคใหญ่คือก้าวไกลและเพื่อไทยเจ้าของพื้นที่ ออกมาดาหน้าโต้กลับ ผอ.สำนักอุทยานฯ ว่า อย่ามากล่าวหากันแบบเลื่อนลอย ให้นำหลักฐานมาแสดงด้วย และอย่าผูกขาดความรักป่าไว้เพียงคนเดียว หน้าที่ดับไฟป่าเป็นของภาครัฐ ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็อย่ารำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง ในขณะ สส.บางรายถึงกับระบุว่าได้รับข้อมูลจากคนในพื้นที่ว่าไฟป่าเกิดคนของรัฐเป็นฝ่ายจุดไฟเองหรือไม่  เพราะหากไฟป่ามอดงบประมาณลงพื้นที่ก็มอดลงไปด้วย

ศึกไฟป่าลามการเมืองครั้งนี้อาจจะทำให้เก้าอี้ รมว.ทรัพยากรฯ ร้อนไปด้วย เพราะถือเป็นหน่วยงานหลักซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้การแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ถือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน หน่วยงานภาครัฐ  ภาคประชาชน และคนในพื้นที่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแย่งซีนกันทำงาน เพื่อหวังชิงตัวชาวบ้านที่เดือดร้อนไปเป็นตัวประกันหรือไม่.

พิราบ บานเย็น