เมื่อวันที่ 22 เม.ย. สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม มูลนิธิคุณร่วมมือกับสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม และวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดาราศิลปินรักษ์โลก คุณก้อง-สหรัถ สังคปรีชา เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางวิชาการเรื่อง “ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับบทบาทของตุลาการ” นายเกรียงไกร จรรยามั่น เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม และนาย Renaud Meyer ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงาน ตามด้วยการบรรยายจาก นาย Simone Boneschi ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักนิติธรรม ความมั่นคง และสิทธิมนุษยชน จาก UNDP และดร. Georgina LLOYD ผู้ประสานงานระดับภูมิภาคด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จาก UNEP

จากนั้น มูลนิธิคุณรับช่วงในการอภิปราย เรื่อง “ศาลยุติธรรมกับบทบาทผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อมตอน: การแยกขยะกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : บทบาทและพฤติกรรมประชาชนในการจัดการขยะและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยมี พี่ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ศิลปินเพลงชื่อดัง และผศ.ดร.มานิตย์ นิธิธนากุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณปรเมศร์ รักการงาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานด้านความยั่งยืนในภาคการเงินการธนาคาร และดร.คมวัชร เอี้ยงอ่อง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย ปิดท้ายด้วยการบรรยายเรื่อง “ความสำคัญของร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด” โดยรองศาสตราจารย์ ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม รองประธานคนที่ 1 กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด

โดย นายเกรียงไกร จรรยามั่น เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการสัมมนาในครั้งนี้ว่า ความร่วมมือกันในการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ร่วมกันทันทีที่มีความรู้ ความเข้าใจ โดยสิ่งที่ง่ายที่สุดคือการจัดการขยะ ซึ่งหากจัดการได้อย่างถูกวิธีจะทำให้ก๊าซเรือนกระจกลดลง และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้มีการแบ่งแยกในเรื่องทรัพยากร เส้นทาง การพัฒนาและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน และระหว่างคนรวยกับคนจน จึงทำให้ในปัจจุบันมีการกล่าวถึงความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ

สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจึงได้ร่วมเครือข่ายพันธมิตรในหลายภาคส่วน จัดโครงการ JTI Forum on “Climate Justice & Climate Change: The Roles of the Judiciary” (การสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : บทบาทของตุลาการ) ขึ้น เพื่อให้ผู้พิพากษา ข้าราชการ และประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนเปราะบางและทุกภาคส่วนของสังคม ทราบความหมายและแนวคิดเรื่องความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ ตลอดจนมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการขยะเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

นายเกรียงไกร ยังกล่าวขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องว่า “งานนี้ต้องขอบคุณผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Development Programme : UNDP) คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (Delegation of the European Union to Thailand: EU) วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PPC) ที่สนับสนุนวิทยากร และสื่อการเรียนรู้ต่างๆ และต้องขอขอบคุณประธานมูลนิธิคุณ KHUN Foundation และทีมงาน ที่สนับสนุนวิทยากรในโครงการนี้”

ขณะที่ คุณปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต หรือคุณจิ๋ว ประธานมูลนิธิคุณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลาทำกิจกรรมจะเน้นทำกับเด็ก ๆ และจากการที่มูลนิธิคุณทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง มีการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ผ่านดาราศิลปิน และสื่อมวลชน ทำให้มีพันธมิตรใหม่ๆ หลายหน่วยงานเข้าร่วมด้วย ดังเช่นในวันนี้ที่มูลนิธิคุณได้รับโอกาสที่สำคัญมาก ๆ ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งทุกวันที่ 21 เมษายนของทุกปีจะเป็นวันศาลยุติธรรม และบังเอิญมากที่วันที่ 21 ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ การจัดกิจกรรมปีนี้เลยต้องเลื่อนมาจัดในวันที่ 22 เมษายน ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day พอดี กิจกรรมที่มูลนิธิคุณทำอยู่จึงตรงกับกิจกรรมของศาลปีนี้พอดีเลย มูลนิธิคุณต้องขอขอบคุณ ท่านผู้พิพากษา ฐิดารัตน์ นรินทรางกูร ณ อยุธยา ที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่มูลนิธิคุณพยายามทำเรื่องรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด

ด้าน พี่ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา กล่าวว่า ที่ได้มาร่วมช่วยงานนี้เพราะเห็นคุณจิ๋ว ปรางค์ทิพย์ ของมูลนิธิคุณตั้งใจและมุ่งมั่นช่วยรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมานานหลายปี และก้องเองก็เห็นด้วยว่าการรณรงค์เรื่องการแยกขยะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ง่ายมาก ๆ แต่ผู้ใหญ่หลายคนไม่ใส่ใจและไม่คิดว่าจำเป็นต้องทำ ผมเห็นคนใกล้ตัวจับโยนทุกสิ่งทุกอย่างใส่ถังขยะเดียวกัน ไม่ว่าจะขยะเปียกพวกเศษอาหาร ก็เอาพวกขยะอันตรายและขยะสะอาดพวกกระดาษหรือขวดน้ำเปล่าจับโยนทิ้งไปรวมกับขยะเศษอาหารหมด ของที่สะอาดก็กลายเป็นสกปรก

ผมเคยคิดกับตัวเองว่า แต่ก่อนเราก็ทำแบบนี้ แต่ผมก็จำไม่ได้ว่าอะไรที่ทำให้เราเริ่มแยกขยะ และเริ่มแยกขยะตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมนึกไม่ออก แต่ก็เริ่มมานานแล้ว ถ้างานในวันนี้จะทำให้มีคนมาตั้งใจเริ่มแยกขยะและถือว่าเป็นวันเริ่มต้นของการทำสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ เพื่อสิ่งแวดล้อมของเรา ก็จะดีมากเลยครับ เพราะพอดีงานวันนี้เป็นวันคุ้มครองโลก หรือวัน Earth Day ทุกท่านในงานวันนี้ก็จะได้มีจุดเริ่มในใจเลยว่าวันนี้นี่แหละที่ทุกคนมาช่วยคุ้มครองโลกกัน เริ่มจากง่าย ๆ ใกล้ตัวกันก่อนเลยครับ มาแยกขยะหรือประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ พวกสิ่งยาก ๆ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าไปซีเรียส เพราะการช่วยโลกควรทำอะไรก็ได้ที่ไม่ยากเกินไปสำหรับเรา เริ่มต้นแค่นี้ก่อนได้ครับ

อย่างวันนี้ผมขอบคุณทางจุฬาและมูลนิธิคุณมาก ๆ ครับที่ช่วยออกแบบ Hero ของผู้พิทักษ์โลกให้ผมเป็น Green man ซึ่งความหมายคือ ผมเป็นคนที่ช่วยเซฟโลกจากการนำขยะเศษอาหารทิ้งในถังขยะสีเขียว เหมือนทางคุณจิ๋วเค้าจะรู้ว่าที่บ้านผม เราจะช่วยกันแยกขยะเศษอาหาร ไม่เอาไปรวมกับพวกกระดาษหรือพลาสติก เรื่องง่าย ๆ แค่นี้เองครับ พวกเราก็จะเป็น Hero กันได้.