ที่ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี และ พ.ต.อ.วรภพ จำปาเงิน ผกก.สภ.ศรีประจันต์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดี “ทำอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่” จำนวน 1 ราย พร้อมของกลางชิ้นส่วนอาวุธปืน 549 ชิ้น ซึ่งหากนำมาประกอบรวมกัน จะเป็นอาวุธปืนยาวอัดลมไทยประดิษฐ์ ได้ประมาณ 30 กระบอก ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าว หากยิงถูกจุดสำคัญ สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้

สืบเนื่องมาจากข้อมูลการสืบสวนของตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทราบว่ามีการจำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ผ่านช่องทางออนไลน์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.ศรีประจันต์ นำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านพัก จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว หลังทำการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้จำหน่ายปืน ขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยมีการสั่งซื้อผ่านคนกลางและมีการสั่งออร์เดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งหลังจากทางตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สืบทราบข้อมูลเบาะแสจนแน่ชัด จึงได้ประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรรบุรี ได้เข้าตรวจค้น และทำการเข้าจับกุมดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ก่อนหันมาประกอบปืนยาวอัดลมไทยประดิษฐขายออนไลน์ด้วยอีกทาง เคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เมื่อปี 2563 เกี่ยวกับเรื่องผลิตอาวุธปืนดังกล่าวจำนวนหนึ่ง ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นช่างซ่อมรถ จยย. แล้วรายได้ไม่พอใช้ เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกถึง 3 คน จึงต้องผลิตปืนเสริมรายได้อีกทาง มีรายได้ทั้งซ่อมรถ ขายปืน อยู่ประมาณวันละ 900 บาท อย่างไรก็ดีทางตำรวจได้ทำการสอบสวนเพิ่ม พร้อมรวบรวมของกลาง พยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป