รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี แจ้งกับ ตลท. ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 67 บริษัทมีกำไร 2,424.85 ล้านบาท ลดลง 85% จากงวดเดียวกันปี 66 ที่มีกำไร 16,525.73 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 66 มีรายการพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics ซึ่งไม่ใช่รายการเงินสดมูลค่า 11,956 ล้านบาท ประกอบกับไตรมาสนี้ ผลประกอบการของธุรกิจเคมิคอลส์ลดลง
โดยไตรมาสนี้ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 124,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากยอดขายที่สูงขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ EBITDA เท่ากับ 12,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง เป็นผลมาจากสินค้ากรีนและการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรเพิ่มขึ้น 3,559 ล้านบาท จากกำไรที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกธุรกิจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เอสซีจีมีรายได้จากการขายลดลง 3% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง และปริมาณขายที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ อย่างไรก็ตาม EBITDA เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง
ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 1 ปี 67 เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 1,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173 ล้านบาท หรือ 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์คิดเป็น 26% ของทั้งหมด หรือ 458 ล้านบาท ลดลง 182 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจอื่นคิดเป็น 74% ของทั้งหมด หรือ 1,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 355 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนเอสซีจีมีเงินปันผลรับในไตรมาสที่ 1 ปี 67 เท่ากับ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจีถือหุ้น 20-50%) เท่ากับ 114 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจีถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 93 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เอสซีจียังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงโดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 67 เท่ากับ 78,585 ล้านบาท เทียบกับ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 66 ซึ่งอยู่ที่ 68,064 ล้านบาท เอสซีจีมีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 106,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 10% โดยมีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อต้นทุนขายเท่ากับ 70 วัน ลดลงเมื่อเทียบกับ 75 วัน ในไตรมาสก่อน (ไตรมาสที่ 4 ปี 66)
