ตามที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้กำชับให้เร่งกวดขันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน โดยมอบหมายให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ลักลอบขาย บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุดประชาชนผู้ปกครอง ย่านอำเภอเมืองกาญจนบุรี แจ้ง สคบ. เข้ามาจัดการ หลังพบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษาห่วงเด็กและเยาวชน หลังจากแจ้งไปหลายที่ เรื่องกลับเงียบหาย นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มอบหมายศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. อำนวยการโดย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. สั่งการให้ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ สคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าซึ่งลักลอบเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบพบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า 7 ร้าน ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ารอบตัวเมืองกาญจนบุรี ที่สำคัญเปิดใกล้กับโรงเรียนในละแวกดังกล่าว และเปิดขายมาเป็นเวลาระยะเวลานาน จึงได้ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายกับผู้ขาย ในการปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถยึดของกลางได้จำนวนประมาณ 18,000 ชิ้น มูลค่าโดยประมาณ 6 ล้านบาท

โดยนายธสรณ์อัฑฒน์ กล่าวว่า ในการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สคบ. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พบบางร้านยังมีเด็กและเยาวชนเข้าไปซื้อมาสูบ ส่งผลเป็นอันตรายต่อสุขภาพทางเดินหายใจ และพัฒนาการทางสมอง การบังคับใช้กฎหมายกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มข้นของ สคบ. เป็นไปตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน

ทั้งนี้ การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหากว่าใครฝ่าฝืนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th แอปพลิเคชัน OCPB Connect รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม ในทุกจังหวัด.