นายสุรินทร์ ศิริพันธ์ ประธานชุมชนสันติหน้าแขวง นครศรีธรรมราช เดินทางไปเยี่ยม นางสุด จำปาทอง อายุ 93 ปี อาศัยอยู่ซอยสันติ ชุมชนสันติหน้าแขวง ต.โพธิ์เสด็จ เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเช่าบ้านเดือนละ 1,500 บาท อาศัยอยู่กับนายตุ้ย อายุ 56 ปี บุตรชาย แต่บุตรชายออกไปทำธุระไม่อยู่บ้าน พบคุณทวดสุดกำลังนั่งเหลาย่านลิเภาอยู่หน้าบ้าน เพื่อนำไปประดิษฐ์เป็นหัตถกรรมสานย่านลิเภาเป็นกระเป๋าแฟชั่นสุดหรูรูปแบบต่างๆ  ตามที่ลูกค้าสั่ง แต่ด้วยวัยชราทำให้การทำงานสานย่านลิเภาในแต่ละขั้นตอนเป็นไปอย่างเชื่องช้า ยากลำบาก และตามปกตินายตุ้ย บุตรชายจะช่วยเป็นลูกมือช่วยเลือกและเหลาย่านลิเภาให้คุณทวด ซึ่งการทำหัตถกรรมสานย่านลิเภาเป็นศิลปะชั้นสูงของชาวนครศรีธรรมราช ต้องใช้ความชำนาญ เชี่ยวชาญและอดทน โดยใช้ความละเอียดสุดประณีตเป็นกรณีพิเศษกว่าจะสำเร็จในแต่ละชิ้นต้องใช้เวลา 10-15 วัน หรือบางชิ้นที่มีขนาดใหญ่อาจจะใช้เวลา 1-2 เดือน

คุณทวดสุด เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองว่า บ้านเดิมอยู่นอกตัวเมือง เรียกบ้านยวนแหล  ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช  เมื่อกว่า 50 ปีก่อน ตนและสามี ได้ตัดสินใจขายที่ดิน 3 ไร่ นำเงินไปซื้อรถยนต์สองแถววิ่งรับจ้างสายหน้าเขา-ตลาดยาว แต่ในที่สุดรถยนต์ถูกยึดจนหมดเนื้อหมดตัวและไม่มีที่อยู่อาศัย จึงพากันย้ายถิ่นฐานมาหางานทำในเมืองโดยมารับจ้างเข็นรถส่งพืชผักและสินค้าทางการเกษตรอยู่ที่ตลาดหัวอิฐ โดยเช่าบ้านหลังนี้อยู่อาศัยมาตั้งแต่เดือนละ 150 บาท และอยู่ได้ไม่กี่ปี สามีตนก็เสียชีวิต ตนจึงกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูก 1 คนคือนายตุ้ย แต่โชคดีที่ตนมีฝีมือด้านศิลปหัตถกรรมจึงยึดอาชีพทำศิลปหัตถกรรมจักสานย่านลิเภามาจนถึงปัจจุบันและในปัจจุบันค่าเช่าบ้านจากเมื่อ 40-50 ปีก่อนเดือนละ 150 บาทก็ขึ้นเดือนละ 1,500 บาท 

สำหรับย่านลิเภา ตนและลูกชายจะไปซื้อจากชาวบ้านย่านตลาดน้ำแคบ ซึ่งอยู่เขตรอยต่อ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ท่าศาลา และ อ.พรหมคีรี ราคาเส้นละ 1 บาท ใช้เงินซื้อย่านลิเภาครั้งละ 1,000 บาท มาเหลาให้ราบเรียบเสมอกัน จากนั้นตนจะเริ่มต้นสานตามรูปแบบที่ลูกค้าสั่ง ถ้าเป็นกระเป๋าแฟชั่นขนาดต่างๆ หากเป็นขนาดใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน เมื่อเสร็จในแต่ละชิ้นก็จะนำไปส่งให้ร้าน “นาบีน” ร้านจำหน่ายเครื่องถมและผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาบริเวณหลังสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ในราคาใบละ 5,000 บาท ตนและลูกชายจะมีรายได้ไม่ค่อยเพียงพอกับค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ตนยังได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท จึงพอจะดำรงชีวิตอยู่ได้ตามมีตามเกิด จึงอยากให้ทางรัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือส่งเสริมเรื่องเงินทุนเพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพศิลปหัตถกรรมผลิตภัณฑ์ย่านลิเภา

ทางด้านนายสุรินทร์ ศิริพันธ์ ประธานชุมชนสันติหน้าแขวง กล่าวว่า คุณทวดสุด นับเป็นคนที่มีฝีมือด้านศิลปหัตถกรรมสานย่านลิเภา ซึ่งเป็นงานฝีมือหรือศิลปะชั้นสูงของชาวนครศรีธรรมราช ทางชุมชนจะพยายามหาแนวทางในการสนับสนุนส่งเสริมให้คุณทวดสุดและลูกชายประกอบอาชีพนี้ต่อไป โดยจะพิจารณาดูว่าจะหาเงินทุนมาช่วยสนับสนุนจากทางใดได้บ้าง เพื่อให้คุณทวดสุดและลูกชายมีรายได้และมีความเป็นอยู่หรือมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้