เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก เขต 2 พรรคเพื่อไทย ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล นายกสมาคมพลเมืองนครนายก เกี่ยวกับเรื่องปมสถานที่ตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาด 20 เมกะวัตต์ในเขตพื้นที่ชุมชน อ.องครักษ์ จ.นครนายก พร้อมรายชื่อผู้คัดค้านกว่า 8,000 คน เพื่อส่งมอบเอกสารประสานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมสภาผู้แทนราษฎร(กมธ.อว.) เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนนี้ต่อไป

นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยเสนอในสภามาแล้วเรื่องความไม่เหมาะสม และขอให้ทบทวนสถานที่ตั้ง เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก แต่ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่าจะทบทวนเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่หรือไม่อย่างไร ที่ผ่านมา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร(กมธ.อว.) ได้เชิญสมาคมพลเมืองนครนายก พร้อมด้วยตนเองในฐานะคณะกรรมธิการฯเข้าร่วมประชุม กมธ.อว. ที่รัฐสภาโดยได้พิจารณาเรื่องการร้องเรียนของสมาคมพลเมืองนครนายก ที่ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโครงการจัดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัยเครื่องใหม่ และได้เชิญตัวแทน 5 องค์กร เข้าชี้แจงประกอบด้วยสำนักงานปรมณูเพื่อสันติ, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน),บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และ นายอำเภอองครักษ์ ตัวแทน จ.นครนายก

ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง และ กมธ.อว. ได้ซักถามอภิปรายอย่างกว้างขวางก่อน กมธ.อว. มีมติร่วมกัน โดยเห็นพ้องกันว่าโครงการจัดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฯมีความจำเป็น แต่ด้วยสภาพพื้นที่ในปัจจุบันที่พื้นที่ตั้งโครงการฯเป็นเขตชุมชนและมีการขยายตัวของเมือง จนนำมาสู่การคัดค้านและความกังวลใจของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากโครงการเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์นี้ จึงเห็นควรเปลี่ยนสถานที่ตั้งโครงการให้เหมาะสม โดยเห็นควรประสานไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อขอใช้พื้นที่ของทหารที่เป็นพื้นที่โล่งและกว้างขวางมีรั้วรอบขอบชิดห่างไกลชุมชนเป็นสถานที่ปลอดภัยและเหมาะสมกว่าต่อไป.