เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม. พ.ต.ท.ปริญญา รักษาแก้ว สว.กก.5 บก.ปคม. นำกําลังจับกุม นายนพดล อายุ 40 ปี และ น.ส.คชาภรณ์ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2898-2899/2566 ลงวันที่ 6 ก.ย. 2566 ข้อหา “สนับสนุนการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี, สนับสนุนเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป เพื่อการอนาจาร ซี่งบุคคล อายุเกินสิบห้าปีฯ”

นายวริทธิ์ อายุ 41 ปี และนายพีรพล อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญา 3052/2566 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2566 ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา ซื้อขาย จําหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ, พรากผู้เยาว์ ชักจูงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ”

พล.ต.ต.ศารุติ เปิดเผยว่า ภายหลังเข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี พ้นขบวนการค้ามนุษย์ ตำรวจ ปคม. ได้ขยายผลเข้าจับกุม น.ส.ธันยพร นายหน้าค้าบริการได้ที่คอนโดมิเนียมย่านพระราม 2 สอบสวนทราบว่า น.ส.ธันยพร เป็นคนนํารูปของเด็กในสังกัดไปโพสต์ขายบริการในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เสียค่าโฆษณา 490 บาทต่อเดือน หากต้องการให้แอดมินเพิ่มยอดผู้เข้าชม หรือรับความนิยมสูง รีวิวดี ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยไปจนพบบัญชีธนาคารของแอดมินดังกล่าว เป็นบัญชีม้าชื่อ น.ส.คชาภรณ์ แต่ละเดือนมีผู้โอนค่าโฆษณาค้ากาม 2-3 แสนบาท

ส่วนนายนพดล มีหน้าที่ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มก่อนส่งต่อให้นายวริทธิ์ทุกครั้ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และติดตามรวบตัว น.ส.คชาภรณ์ ได้ที่บ้านพักย่านดุสิต ส่วนนายนพดลได้ตัวที่แมนชั่นย่านบางเขน สอบสวนให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเปิดบัญชีม้าได้ค่าจ้าง 2,000 บาท ส่วนนายนพดลยอมรับว่า นายวริทธิ์เป็นผู้ว่าจ้างให้ไปกดเงินสดจากบัญชีม้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000-2,000 บาท

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขยายผลติดตามจับกุมนายวริทธิ์ ได้ที่บ้านพักย่านหัวหมาก โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นแอดมินและดูแลการเงินของเว็บไซต์ดังกล่าวจริง มีเงินเดือน 6 หมื่นบาท และยังมีเงินรายได้แบ่งครึ่งกับนายพีรพล เจ้าของเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมนายพีรพลได้ที่หมู่บ้านหรูย่านสมุทรปราการ ตรวจพบประวัติข้อมูลและการโพสต์รูปเหยื่อการค้ามนุษย์เป็นหญิงสาวจำนวนมากภายในคอมพิวเตอร์ จึงตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

สอบสวนนายพีรพล ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวจริง ส่วนนายวริทธิ์นั้นเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่ทำงานเป็นมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ และออแกไนเซอร์ เมื่อปี 2564 ช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 พวกตนขาดรายได้ จึงเกิดไอเดียจัดทำเว็บไซต์ผู้หญิงขายบริการทางเพศ ที่ลงงานขายบริการออนไลน์ได้ ส่วนตนทั้งสองก็จะมีรายได้จากค่าโฆษณา จึงไปว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ชาวต่างชาติสร้างเว็บไซต์และเช่าเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ ที่ผ่านมามีรายได้จากการทําเว็บไซต์ถึงเดือนละ 2-3 แสนบาท เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดําเนินคดี พร้อมทำเรื่องเสนอกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป