ปัจจุบัน ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิกอยู่ในยุคที่รุ่งเรือง หลายประเทศและหลายภูมิภาคกำลังเร่งเดินหน้าสำรวจศักยภาพด้านความอัจฉริยะ พร้อมส่งเสริมการพัฒนาทางด้านดิจิทัล จวบจนถึงปัจจุบัน หัวเว่ยได้สนับสนุนการพัฒนาด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับองค์กรพันธมิตรมากกว่า 100,000 รายในเอเชียแปซิฟิก และช่วยให้ภูมิภาคนี้ สามารถสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายชั้นนำ โดยผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยและพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนา OpenLab, ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมร่วมทางด้าน 5G และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าในภูมิภาค 

นางซาบรีนา เมิ่ง รองประธาน ประธานหมุนเวียนตามวาระ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ได้กล่าวเปิดการว่า “เอเชียแปซิฟิกไม่เพียงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโอกาสมากที่สุดของโลก แต่ยังเป็นแบบอย่างสำหรับภูมิภาคอื่น ๆ ที่กำลังพยายามขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัลและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของตนเอง ซึ่งหัวเว่ยได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขับเคลื่อนนี้ และหัวเว่ยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมงานกับเหล่าลูกค้าและพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมทุกท่าน ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับภูมิภาค”

ซาบรีนา เมิ่ง

“ก้าวต่อไปนับจากนี้ เราจะยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า เราต้องการทำหน้าที่ของเราในการนำประโยชน์ต่าง ๆ ของนวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะมามอบให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเรายังต้องการส่งเสริมการพัฒนาภาคเศรษฐกิจดิจิทัล ควบคู่ไปกับภาคเศรษฐกิจจริงในแบบองค์รวม”

ฯพณฯ นารายา เอส ซูปราปโต รองเลขาธิการแห่งสำนักงานเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นอนาคตของกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement : DEFA) เอื้อให้สังคมและชุมชนธุรกิจของเราได้มีกำลังขับเคลื่อนในการปลดล็อคศักยภาพด้านบริการดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลแบบคลาวด์ ทั้งนี้ ในการที่จะสร้างอนาคตแห่งความสำเร็จด้านดิจิทัลให้ทั่วทั้งภูมิภาค ภาครัฐบาล เอกชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย จำเป็นจะต้องนำแนวทางที่สอดคล้องกันมาใช้ส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล พร้อมลดความเหลื่อมล้ำด้านการพัฒนาในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงพัฒนาทักษะ และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลภายในภูมิภาค

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ประเด็นที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น คือการเร่งการพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะภายใต้แผนงาน “The Growth Engine of Thailand” เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในฐานะกลไกการขับเคลื่อนหลักที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อีกทั้งยังจะช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลโดยรวมของประเทศ ทั้งนี้ โครงการสำคัญภายใต้แผนงานริเริ่มนี้ ได้แก่ โครงการ Cloud First Policy การพัฒนา AI สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) การพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล การแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ และโครงการความร่วมมือที่หลากหลายกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดคล้องกับทิศทางด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นายลีโอ เฉิน รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย และประธานฝ่ายธุรกิจการขายหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ในฐานะผู้นำในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและความอัจฉริยะ เราเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะซึ่งครอบคลุมทั้งด้านโครงข่าย การจัดเก็บ การประมวลผล และระบบคลาวด์ คือกุญแจสำคัญสู่การปลดล็อกด้านประสิทธิภาพ หัวเว่ย มีความเข้าใจเชิงลึกในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จึงมีความพร้อมและยินดีที่จะนำเทคโนโลยีที่ครอบคลุมแบบ full-stack และโซลูชันที่ต่าง ๆ ของเรามาใช้ประโยชน์ รวมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายนี้ เราจะร่วมกันเป็นผู้นำขับเคลื่อนความเป็นอัจฉริยะทางอุตสาหกรรมในระดับโลกและพัฒนาภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้เป็นศูนย์รวมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อม ๆ ไปกับการริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างความมหัศจรรย์แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้เกิดขึ้นอีกครั้งในยุคแห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้

นายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ขณะที่เราเดินหน้ารับมือกับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เป็นที่ประจักษ์ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะต้องเป็นมากกว่าแค่การนำโซลูชันมาใช้ แต่คือการผนวกเทคโนโลยีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของภาคเศรษฐกิจและสังคมในเชิงลึก ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้เข้าสู่ยุคทองของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัล หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะเป็นทั้งผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยี ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม และผู้สนับสนุนประจำแต่ละพื้นที่ และด้วยความร่วมมือจากองค์กรธุรกิจและพันธมิตรด้านคลาวด์กว่า 10,000 ราย เราพร้อมที่จะขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จ และเร่งพัฒนาให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัลและมีความอัจฉริยะอย่างแท้จริง”