นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อหารือกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ซึ่งในสัปดาห์นี้จะมีการหารือรายละเอียดหลักเกณฑ์สินค้าต้องห้ามที่ไม่สามารถใช้เงินดิจิทัลซื้อได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่มีวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากการนำเข้า หรือเป็นสินค้านำเข้ามา 100% โดยไม่ได้ผลิตในไทยเลย ว่าจะมีหลักเกณฑ์อย่างไรที่เข้าข่ายซื้อได้หรือไม่ได้

อาทิ ในส่วนโทรศัพท์สมาร์ตโฟน ไอโฟน ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศทั้งหมดนั้น ที่ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสิทธิออกจากการใช้จ่ายโครงการ แต่คณะกรรมการก็จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะหลักการของดิจิทัลวอลเล็ตคือต้องการให้ประชาชนใช้จ่ายสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อให้เกิดการผลิต และเกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในประเทศ อาทิ สินค้าที่เราตัดออกไปแล้วอย่าง น้ำมัน เนื่องจากน้ำมันนำเข้ามาแทบทั้งหมด ไม่ได้เกิดกระบวนการผลิตในประเทศ  

อย่างไรก็ตาม ส่วนสินค้านำเข้าอื่นๆ ก็จะต้องพิจารณาให้เหมาะสม เพราะแม้จะมีการนำเข้ามาเกือบทั้งหมด แต่ก็เป็นสินค้าจำเป็น และเป็นประโยชน์ ต่อยอดในการผลิตได้ อาทิ ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี แม้เป็นสินค้านำเข้า แต่เกษตรกรมีความจำเป็นในการใช้ และช่วยกระบวนการผลิตของเกษตรกร ส่วนนี้ยังเข้าเงื่อนไขการใช้จ่าย ดังนั้นในส่วนสมาร์ตโฟน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ จะเข้าข่ายซื้อได้หรือไม่ก็ต้องมีการหารือกัน

“การพิจารณาหลักเกณฑ์สินค้านำเข้า ที่เข้าเงื่อนไขโครงการ เราจะทำให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด หากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ แม้นำเข้าจากต่างประเทศ เราก็จะผ่อนเกณฑ์ให้ ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาอย่างเหมาะสม”

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมสัปดาห์นี้จะมีการหารือเรื่องประเภทร้านค้า และดูข้อจำกัดในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งหารือในเรื่องฐานข้อมูล เนื่องจากโครงการนี้มีฐานข้อมูลมาจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย มีข้อมูลประชาชน ส่วนข้อมูลรายได้ของประชาชน อยู่ที่กรมสรรพากรที่มีข้อมูลการจัดเก็บรายได้ เป็นต้น ฉะนั้น เมื่อต้องการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันจะต้องมีการวางแผนการทำงานเพิ่มมากขึ้น