เมื่อ 09.20 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายครูมานิต สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ หลังถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี จะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ได้กระทบ เพราะโดยส่วนตัวนายปานปรีย์อาจจะเก่งเรื่องวิชาการ แต่ไม่มีคุณสมบัติการเป็นนักการเมือง ความอดทนอดกลั้นไม่มี

“บางฤดูเข้าไปอยู่ในพรรคก็หายไป ตอนที่มีพรรคไทยรักษาชาติ เขาก็ไปเดินอยู่ในพรรคไทยรักษาชาติ พอเขาจะมีการจัดตั้งทีมให้ออกไปช่วยงานการเมือง ก็หายไปอีก”

นายครูมานิตย์ กล่าวอีกว่า ตนมองว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาก ที่ให้เป็น รมว.การต่างประเทศ และเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งนี้ตนก็ทราบว่า นายกฯ ได้พูดคุยแล้วให้รับหน้าที่อยู่ที่กระทรวงเดียว เพราะอยากให้คนอื่นมาทำบ้าง หลายเรื่องต้องมีความผูกพันกับพื้นที่ ซึ่งนายปานปรีย์ไม่เคยรู้จักพื้นที่อยู่แล้ว และการที่นายปานปรีย์ได้มารับผิดชอบกระทรวงการต่างประเทศถือว่าเป็นตำแหน่งใหญ่โตแล้ว เวลาไปเมืองนอกก็เทียบเท่าเป็นบุคคลสำคัญของประเทศไทย

นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายปานปรีย์ ยังมีการส่งหนังสือลาออกให้สื่อมวลชนก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนมองว่าไม่แฟร์ทางการเมือง แล้วพิสูจน์ให้เห็นว่าคนแบบนี้ขาดน้ำอดน้ำทน อยู่กับการเมืองลำบากอยู่ไม่ได้ และในที่สุดก็ต้องอัปเปหิตัวเองออกมา

เมื่อถามว่าในอนาคตนายปานปรีย์ จะยังทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้ดูถูกดูแคลนเขา เขาเกิดมาไม่ได้มีคุณสมบัติของการเป็นนักการเมือง การเป็นนักบริหาร ceo เป็นได้ แต่ทางการเมืองนอกจากเป็นนักบริหารแล้ว ต้องมีความเป็นนักการเมืองด้วย เพราะเป็นงานที่หนัก ต้องมีการบริหารพื้นที่ บริหาร สส. บริหารราชการแผ่นดิน เรื่องทุกข์สุขปากท้องชาวบ้านมีเยอะ และเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่กระทบต่อพรรคเพื่อไทย เพราะนายปานปรีย์ไม่ใช่คีย์แมนคนสำคัญของพรรค คนที่เก่งสามารถบริหารกระทรวงการต่างประเทศได้มีอีกเยอะ

เมื่อถามว่าการพูดแบบนี้เป็นการตัดบัวไม่ให้เหลือใยใช่หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าตัดวัวไม่เหลือใจ ขนาดตนอยู่การเมืองมานาน แทบจะไม่มีโอกาสคุยกับนายปานปรีย์ ทั้งที่คนที่เป็นผู้บริหารต้องมีความผูกพันกับนักการเมือง พร้อมยกตัวอย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ที่วันนี้มีนักการเมืองมาหาจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนการที่นายปานปรีย์ ลาออกจะกระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ นายปานปรีย์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย หลายคนบอกว่าเสียดายนายปานปรีย์ แต่ถามว่าพรรคเพื่อไทยเสียดาย ตนไม่รู้ แต่ส่วนตัวจนไม่เสียดาย และคิดว่าผู้แทนคนอื่นเขาคิดเหมือนตน “อย่าลืมว่าคุณมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะพวกผม มาจากผู้แทนจึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ การไปเป็นรัฐมนตรี ไปเป็นเสนาบดี แต่ไม่มาสัมผัสกับผู้แทนจึงไม่ได้ให้ความสำคัญ” พร้อมกล่าวว่า การที่ปรับตำแหน่งนายปานปรีย์ นายกฯ พิจารณาหลายมิติแล้ว