สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่าจากการที่ นิตยสารดิ อีคอนอมิสต์ เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ว่ายังคงยืนยันไม่ล้มเลิกแนวคิด ส่งทหารฝรั่งเศสเข้าสู่สมรภูมิยูเครน เนื่องจากรัสเซีย “คือมหาอำนาจแห่งการทำลายล้าง” และ “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของยุโรป”


ขณะเดียวกัน มาครงเน้นย้ำว่า การที่รัสเซียต้องไม่เป็นฝ่ายชนะเหนือยูเครน ถือเป็น “เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศส” เนื่องจากหากรัฐบาลมอสโกเป็นฝ่ายชนะ “ยุโรปจะไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป” นั้น


นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวเรื่องนี้ “เป็นบทสัมภาษณ์ที่สำคัญ แต่อันตรายมากในเวลาเดียวกัน” จากการที่ผู้นำฝรั่งเศสยังคงพูดถึง ความเป็นไปได้ของการมีส่วนร่วมโดยตรง กับการสู้รบในยูเครน


นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการที่นายเดวิด คาเมรอน รมว.การต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ยูเครน “มีความชอบธรรม” ที่จะใช้อาวุธของสหราชอาณาจักร เพื่อสู้รบกับรัสเซียในยูเครน ว่าเป็น “การยกระดับความรุนแรง”

นายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างการเยือนกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน


ทั้งนี้ คาเมรอนกล่าวเรื่องนี้ ระหว่างการเยือนกรุงเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าสหราชอาณาจักร “ไม่เคยกำหนดเงื่อนไข” ในการให้กองทัพยูเครนใช้งานอาวุธที่ได้รับความสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร เพื่อสู้รบกับทหารรัสเซียในสมรภูมิ

เปสคอฟกล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้นำของประเทศในยุโรป ยังคงมีถ้อยแถลงที่นำไปสู่การเพิ่มความรุนแรงเช่นนี้ เป็นแนวโน้มที่อันตราย และน่าวิตกกังวลอย่างมาก


บทสัมภาษณ์ดังกล่าวของมาครงในดิ อีคอนอมิสต์ ได้รับการเผยแพร่ หลังผู้นำฝรั่งเศสกล่าวปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยปารีส หรือ ซอร์บอนน์ เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปีแล้ว “ยังไม่มีสิ่งใดสามารถยับยั้งได้” และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถทราบได้อย่างชัดเจน ว่า “ข้อจำกัด” ของรัสเซียอยู่ตรงจุดใด


ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องกลุ่มประเทศในยุโรป จัดทำ “แผนยุทธศาสตร์กลาโหมที่เชื่อถือได้” และสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง “เพื่อความอยู่รอด” ของทั้งภูมิภาค มากกว่า “การพึ่งพิงสหรัฐฝ่ายเดียว”

นอกจากนี้ หากยุโรปไม่ปรับตัวให้ทันและสอดคล้องกับ “ความเสี่ยงและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป” ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ มาครงมองว่า ยุโรป “จะล้มหายตายจาก” ไปจากโลกในที่สุด.

เครดิตภาพ : AFP