จากกระแสดราม่าเครื่องกรองน้ำ COWAY (โคเวย์) ทำลูกค้าติดเครดิตบูโรนั้น จนล่าสุด บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ COWAY ได้ประกาศออกจากสมาชิกของเครดิตบูโรเป็นที่เรียบร้อย มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 67 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ลูกค้า เพราะจะทำให้ไม่มีข้อมูลปรากฏอยู่ในเครดิตบูโร

ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “Surapol Opasatien” ระบุว่า ตามที่มีข้อมูล​ข่าวสารเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกเครดิตบูโร​นั้น​ ผมขอให้เรียนข้อมูล​เพื่อความเข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้อง ดังนี้

1.การเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร​นั้นเป็นเรื่องความสมัครใจของกิจการนิติบุคคล​ที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อซึ่งอาจจะเป็นบัตรเครดิต​ สินเชื่อส่วนบุคคล​ สินเชื่อบ้าน​ สินเชื่อธุรกิจ​ เช่าซื้อ​ หรือสินเชื่อเกษตร เป็นต้น

2.นิติบุคคล​ดังกล่าวจะต้องเป็นสถาบันการเงิน​ตามคำนิยามของกฎหมายการประกอบธุรกิจข้อมูล​เครดิต​ ตัวอย่างเช่น​ ธนาคารพาณิชย์​ ธนาคารของรัฐ​ บริษัทบัตรเครดิต​ บริษัทเช่าซื้อรถยนต์​ รถจักรยานยนต์​ เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า​ อุปกรณ์​การเกษตร​ เป็นต้น

3.หน้าที่ของสถาบั​นการเงินที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร​ตามกฎหมายโดยไม่ต้องขอความยินยอมคือ​ การส่งข้อมูล​บัญชีสินเชื่อที่มีประวัติการชำระหนี้ของสินเชื่อประเภทนั้นๆ​ ว่ามียอดคงค้างเท่าไหร่​ กู้เดี่ยวกู้ร่วม​ เปิดบัญชีเมื่อไหร่​ ชำระครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่​ การผ่อนชำระแต่ละเดือนมีสถานะอย่างไร​ เป็นปกติ​ หรือค้างชำระ​ เป็นต้น​

โดยข้อมูล​นั้นจะต้องมีความถูกต้อง​ ครบถ้วน​ ทันสมัย​ พร้อมใช้งาน​ ที่สำคัญในกรณีที่พบว่าข้อมูล​อาจไม่ถูกต้อง​ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง​ กฎหมายกำหนดให้สมาชิกต้องเป็นคนเข้าไปแก้ไขให้ตรงกับข้อเท็จจริง เครดิตบูโร​ถูกสั่งห้ามไม่ให้แก้ไขข้อมูล​ใดๆ​ เว้นแต่จะเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดเช่น​ ศาลสั่งให้แก้​ คณะกรรมการ​คุ้มครอง​ข้อมูล​เครดิต​สั่งให้แก้เป็นต้น​ และเมื่อส่งข้อมูล​เข้าระบบแล้ว​ ในครั้งแรกของการส่งข้อมูล​ จะต้องมีหนังสือแจ้งว่าในฐานะสมาชิกได้ส่งข้อมูล​อะไรให้กับเครดิตบูโร​ ตลอดจนเมื่อสิ้นปีก็ต้องส่งข้อมูล​อีกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ส่งข้อมูล​อะไรให้กับเครดิตบูโร​

การที่กฎหมายวางหลักให้การส่งข้อมูล​เป็นหน้าที่ของสมาชิกก็เพราะว่า​ ข้อเท็จจริง​ทั้งหมดคนที่รู้คือเจ้าหนี้กับลูกหนี้​ บุคคล​ที่สามที่ดูแลข้อมูล​จะใช้วิธีการควบคุมคุณภาพข้อมูลตามมาตร​ฐานสากลมากลั่นกรอง​ สอบทานก่อนนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ​ ที่เราเรียกกันว่า​ กระบวนการควบคุมดูแล​คุณภาพข้อมูล​ เช่น​ บัญชีนี้ถูกส่งมาว่าปิดบัญชี​แล้วแต่ทำไมยังมียอดหนี้คงค้าง​ อย่างนี้ก็จะถูกสกัดออกไปเป็นต้น

4.มาถึงเรื่องการลาออกจากการเป็นสมาชิกของเครดิตบูโร​ การลาออกก็เป็นไปด้วยความสมัครใจเช่นกัน​ อาจจะมีหลายสาเหตุเช่น​ ธุรกรรมน้อยไม่คุ้มกับการเป็นสมาชิก​ หยุดหรือเลิกกิจการ​ ถูกควบรวมกิจการ​ ไม่คิดว่าข้อมูล​เครดิตที่ตนเองเรียกดูได้ภายใต้ความยินยอมในการวิเคราะห์สินเชื่อนั้นนั้นมีคุณค่าเพียงพอ​ หรือข้อมูล​ที่สมาชิกนำส่งนั้นมีปัญหามากต้องใช้เวลาแก้ไข​ จนส่งข้อมูล​ไม่ทันตามกำหนดเวลา​ มีการปรับเปลี่ยนระบบงานจนทำให้การส่งข้อมูล​ล่าช้า​ ส่งไม่ทันตามกำหนด​ได้​ เป็นต้น​ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลทางธุรกิจ​ เหตุผลทางการบริหารจัดการข้อมูล​ อันนี้แล้วแต่ประเด็นสำคัญ​ของสมาชิกเป็นสำคัญ

5.สุดท้ายคือ​ เมื่อมีการลาออกจริงจากการเป็นสมาชิกเครดิตบูโร​ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ​ เครดิตบูโร​จะดำเนินการลบข้อมูล​ทั้งหมดที่มีอยู่ของบัญชีสินเชื่อที่มีการนำส่งเข้ามา​ เคยส่งเข้ามา​ 3 เดือนย้อนหลังก็ลบทิ้งทั้งสามเดือน​ การลบทำลายคือจะไม่มีข้อมูลบัญชีสินเชื่อนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่ออะไรก็ตาม​ ภาษาชาวบ้านคือลบบัญชีที่ลูกหนี้มีอยู่กับเจ้าหนี้สมาชิกสถาบันการเงิน​ที่ลาออกนั้นออกจากระบบฐานข้อมูล​ในวันที่การลาออกมีผลบังคับ​

อยากเรียนว่า​ การที่สถาบันการเงินจะ​เข้ามาเป็นสมาชิกก็จะมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ​ ความสามารถ​ในการส่งข้อมูล​ การดูแลความถูกต้องของข้อมูล การรักษาความลับและสิทธิ์ของลูกหนี้ผู้เป็นเจ้าของข้อมูล ส่วนการลาออกก็เป็นสิทธิ​ของสถาบันการเงินเช่นกัน​ ไม่มีการบังคับกัน​ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย​ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ​ พิสดาร​ หรือแปลกแตกต่างไปจากมาตรฐานสากล​

“ภาษาชาวบ้านคือ​ เข้ามาเป็นเพราะเห็นประโยชน์​ มีความสามารถเข้ามาได้​ ผ่านเกณฑ์​การประเมิน​ ส่งข้อมูล​ได้​ และเมื่อเห็นว่าไม่มีความจำเป็นก็ลาออกไปได้​ ทางผม (เครดิตบูโร) มีหน้าที่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด​ เพราะมันมีกฎกติกาอยู่ครับ”