สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ว่า คณะตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) มีคำพิพากษา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามคำร้องของรัฐบาลแอฟริกาใต้ ว่าอิสราเอลต้องยุติปฏิบัติการทางทหารทุกรูปแบบ ที่เกิดขึ้นแล้วในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และล้มเลิกแผนการทั้งหมดในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในฉนวนกาซา


ขณะเดียวกัน ไอซีเจมีมติให้อิสราเอลต้องเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ ซึ่งติดกับอียิปต์ เพื่อให้การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นไปด้วยความราบรื่น นอกจากนี้ ศาลเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกคนออกจากฉนวนกาซา “ทันทีและโดยปราศจากเงื่อนไข”
ด้านกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์ ว่าคำพิพากษาของไอซีเจ “เป็นก้าวย่างสำคัญ” เนื่องจากเป็นมติครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่เจาะจงไปยังปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ในฉนวนกาซา

ทีมงานฝ่ายกฎหมายของอิสราเอล รับฟังคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ


ต่อมานายซาชี ฮาเนกบี ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลไม่เคยและไม่มีแผนปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง และขอยืนยันว่า จุดผ่านแดนราฟาห์จะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปตามปกติ


อย่างไรก็ตาม พล.ท.เบนนี กันต์ซ อดีต รมว.กลาโหมอิสราเอล ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญของคณะรัฐมนตรีสงคราม กล่าวว่า อิสราเอลจะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดตามแผนการ รวมถึงในเมืองราฟาห์ เพื่อช่วยเหลือตัวประกันทุกคน และเพื่อความปลอดภัยของพลเรือนทุกคน รวมถึงในเมืองราฟาห์

ขณะที่กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์แสดงความยินดี ต่อคำพิพากษาของไอซีเจ แต่ผิดหวังที่คำพิพากษาครอบคลุมเฉพาะเมืองราฟาห์ ไม่ใช่ฉนวนกาซาทั้งหมด ส่วนนายริยาด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องอิสราเอลปฏิบัติตามมติของไอซีเจทันที.

เครดิตภาพ : AFP