เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 10,486 ราย, รักษาหายเพิ่ม 10,711 ราย, มีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ 107,606 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 2,897 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 684 ราย, เสียชีวิตเพิ่ม 94 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 18,123 ราย

สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 1,054 ราย 2.ยะลา 767 ราย 3.ปัตตานี 644 ราย 4.สงขลา 605 ราย 5.นราธิวาส 494 ราย 6.นครศรีธรรมราช 488 ราย 7.ชลบุรี 434 ราย 8.สมุทรปราการ 379 ราย 9.ราชบุรี 299 ราย 10.เชียงใหม่ 233 ราย

ส่วนกราฟแสดงอัตราการติดเชื้อทั่วประเทศ พบว่าในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,510 ราย คิดเป็น 25% สวนทางกับพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มี 1,768 ราย คิดเป็น 17% และใน 67 จังหวัดที่เหลือ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมเป็น 5,999 ราย คิดเป็น 58%

พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่าจากการสอบสวนโรคในหลายจังหวัดภาคใต้ พบจากที่เคยระบาดคลัสเตอร์เล็กๆ ตอนนี้เริ่มแพร่กระจายไปยังครอบครัวและชุมชน ซึ่งเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้เป็นห่วง จ.เชียงใหม่ เพราะพบการติดเชื้อในโรงงาน ตลาด สถานศึกษา และบ้านพักเด็ก

ส่วนคลัสเตอร์อื่นๆ พบในแคมป์ก่อสร้างที่ จ.ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์, พบการระบาดในโรงพยาบาลที่ จ.อุบลราชธานี อีกทั้งพบคลัสเตอร์งานเลี้ยงเกษียณอายุที่ จ.ตรัง รวมถึงพบคลัสเตอร์งานศพที่ อ.หนองเรือ และอ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และพบในค่ายทหารที่ จ.ชลบุรี รวมถึงพบคลัสเตอร์ร้านอาหาร จ.อุบลราชธานี และพบการติดเชื้อของแรงงานล้งผลไม้ จ.จันทบุรี อีกทั้งพบคลัสเตอร์แรงงานเก็บถั่วแระ จ.ลำพูน เป็นต้น.