เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี แถลงข่าวที่เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เพื่อรณรงค์ ขอ 100,000 รายชื่อคนคลั่งชาติ เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 เพื่อปกป้องดินแดนทางทะเลเกาะกูดและสมบัติชาติ ผ่านช่องทาง https://nationalist.onrender.com โดยมี 3 ข้อเสนอคือ 1.ให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 โดยเร่งด่วน เพื่อปกป้องประโยชน์สูงสุดของประเทศ 2.รัฐบาลควรประกาศไม่ยอมรับเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ประกาศในปี พ.ศ. 2515 เพราะไม่มีหลักการทางกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ และเป็นการอ้างสิทธิที่เกินสิทธิ และใช้แผนที่แบ่งเขตทางทะเล เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ที่อนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) ประกาศเป็นแนวทางเจรจา ถ้าต้องมีการเจรจา และ 3.รัฐบาลไทยต้องไม่ยอมแบ่งปันทรัพยากรใดๆ ในพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตารางกิโลเมตรให้กัมพูชา แต่จะต้องเจรจาเขตแดนทางทะเลให้แล้วเสร็จเสียก่อน เพราะถ้ามีการแบ่งปันผลประโยชน์ก่อนการเจรจาดินแดน จะนำไปสู่การเสียดินแดนได้ในอนาคต
“ในฐานะรัฐบาลไทย ท่านไปยอมรับได้อย่างไรที่ เอ็มโอยู 44 ไปยอมให้เกาะกูดเหลือแต่ตัวเกาะ แต่พื้นที่โดยรอบของเกาะกูด โดยเฉพาะพื้นที่ด้านประชิดกับกัมพูชา กลายเป็นพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ และเกิดเป็นทับซ้อน ซึ่งย้อนแย้งโดยสิ้นเชิงกับหลักเขตไหล่ทวีป เขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ของเกาะกูด ถ้าอธิบายแบบง่ายๆ นั่นคือ เฉพาะเกาะกูด ประเทศไทยจะมีแค่ตัวเกาะ ส่วนพื้นที่ทางทะเล รัฐบาลไปยอมรับว่าทับซ้อนกับทางกัมพูชา” ประธานพรรคไทยภักดี กล่าว
ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวอีกว่า หากมีการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลในอนาคต ให้สามารถนำมาเป็นหลักฐาน หรือพิสูจน์ในศาลระหว่างประเทศ โดยอ้างสิทธิทางประวัติศาสตร์ ตามกฎหมายทะเล เพื่อให้เส้นไหล่ทวีปที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ เป็นเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาที่ถูกต้อง อันอาจนำไปสู่การเสียดินแดนได้ในอนาคต ซึ่งการที่รัฐบาลไทยไปยอมกัมพูชาทุกอย่าง ยอมแม้การอ้างสิทธิไหล่ทวีปอ้างเกินสิทธิ ผ่านเกาะของไทยเอง โดยหลักแล้วไม่มีประเทศไหนเขายอม ยิ่งสะท้อนว่า รัฐบาลสนใจแต่ประโยชน์ด้านพลังงาน เร่งที่จะเอา โดยไม่สนใจประโยชน์ส่วนใหญ่ควรเป็นของไทย ประธานพรรคไทยภักดี กล่าว.
