นายธิติ โลหะปิยะพรรณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครั้งที่ 6/2567 ว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมเดินหน้าภารกิจโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.  67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและรวบรวมข้อมูลเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงวันที่ 14 ก.ค. 67-31 ต.ค. 67 จำนวน 59 จังหวัด พร้อมทั้งได้กำหนดกรอบการดำเนินงานโครงการฯ โดยแบ่งรูปแบบโครงการออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. การฟื้นฟูส่งเสริมอาชีพภาคเกษตร (เกษตรกรเลือกได้ 1 กิจกรรม และสามารถเข้าร่วมโครงการในกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ได้) ได้แก่ 1.1. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบภัย โดยกรมการข้าวเตรียมสนับสนุนปัจจัยการผลิต อาทิ เมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี สารชีวภัณฑ์ ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น 1.2. โครงการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรผู้ประสบภัยด้านปศุสัตว์ ปี 2567 โดยกรมปศุสัตว์เตรียมสนับสนุนเงินเพื่อจัดซื้อพันธุ์ไก่พื้นเมือง หรือพันธุ์เป็ดเทศ หรือการปลูกพืชอาหารสัตว์โดยให้เกษตรกรเลือกได้ 1 เมนูอาชีพ และ 1.3. โครงการส่งเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมง การเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อพลาสติกและในกระชังบก โดยกรมประมงเตรียมสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร 3 เมนูอาชีพ ประกอบด้วย พันธุ์ปลาดุก(บ่อพลาสติก) พันธุ์ปลาดุก(กระชังบก) และพันธุ์กบ

2. การฟื้นฟูพัฒนาอาชีพภาคเกษตร ได้แก่ 2.1. โครงการสกัดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช เชื้อรา และการสนับสนุนพันธุ์พืช และปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ ปี 2567/2568 โดยกรมวิชาการเกษตรเตรียมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชพันธุ์ผักไร่ ก้อนเชื้อเห็ดเศรษฐกิจ และปัจจัยการผลิตสารชีวภัณฑ์ รวมถึงการซ่อมแซมและฟื้นฟูเครื่องจักรกลขนาดเล็กให้เกษตรกร 2.2. โครงการปรับระดับพื้นที่เกษตรและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยระยะหลังน้ำลด ปี 2567 โดยกรมพัฒนาที่ดินเตรียมจัดกิจกรรมการจัดระบบอนุรักษ์และน้ำเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และ 2.3 โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนไหมที่ประสบอุทกภัย โดยกรมหม่อมไหมเตรียมสนับสนุนต้นพันธุ์หม่อน ปุ๋ย ปูนขาว และโดโลไมท์ ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย 

3. การลดภาระหนี้สินของสมาชิกสถาบันเกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม ดังนี้ 3.1 ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ปี 2567 และ 3.2 ชดเชยความเสียหายของทรัพย์สินสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2567

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) แนวทางการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตร ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 (ในช่วงเดือน พ.ย. 2567-เม.ย. 2568) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติด้านการเกษตรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทานได้ดำเนินการวิเคราะห์และวางแผนการจัดสรรน้ำฤดูน้ำแล้ง ปี 2566/67 ทั้งประเทศ (ช่วงวันที่ 1 พ.ย. 2567-30 เม.ย. 68) ไว้ทั้งหมด 29,175 ล้าน ลบ.ม. เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง สำหรับการอุปโภค-บริโภค และกิจกรรมภาคการเกษตร ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2567/68 ทั้งประเทศ จำนวน 15.38 ล้านไร่ แบ่งเป็น 1. ข้าวรอบที่ 2 จำนวน 12.83 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 10.02 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 2.03 ล้านไร่) และ 2. พืชไร่พืชผัก จำนวน 2.65 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.62 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 2.03 ล้านไร่) อีกด้วย