สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่า สำนักงานดับเพลิงรัฐแคลิฟอร์เนียออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับวิกฤติไฟป่า ว่ามีไฟป่าอย่างน้อย 4 จุด ทยอยปะทุในพื้นที่ทางตอนใต้ ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ได้แก่ ไฟป่า “ปาลิเซดส์”, “อีตัน”, “วูดลีย์” และ “เฮิร์สต์” ครอบคลุมเขตเวนทูรา และเขตลอสแอนเจลิส สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่มากกว่า 27,000 เอเคอร์ หรือมากกว่า 110 ตารางกิโลเมตร


จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงที่จุดใดได้ เนื่องด้วย “ข้อจำกัด” ทั้งในด้านกำลังคนและทรัพยากร ขณะที่มีการยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย อาคารบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างมากกว่า 1,000 แห่ง ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ออกคำสั่งอพยพประชาชนเกือบ 200,000 คนแล้ว และขอให้ประชาชนปฏิบัติตาม เพื่อความปลอดภัย


ด้านสำนักงานน้ำและพลังงานเขตลอสแอนเจลิส ประกาศขอความร่วมมือ ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้น้ำ เพื่อเป็นการสำรองน้ำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้ในปฏิบัติการ ในเวลาเดียวกัน มีรายงานประชาชนราว 1.5 ล้านครัวเรือน ในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ ประสบกับภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า


ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศให้พื้นที่ไฟป่าทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ณ เวลานี้ “เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ” เพื่อให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือจากส่วนกลาง หลังนายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไฟป่าระดับรัฐ

ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วิจารณ์ว่า ไฟป่าครั้งนี้ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี เป็นผลจาก “การบริหารนโยบายที่ผิดพลาด” ของทั้งไบเดนและนิวซัม

อีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวซึ่งเป็นชาวไทยที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยกับเดลินิวส์ว่า สถานการณ์ไฟป่าในเวลานี้รุนแรงมาก และกระแสลมแรงยิ่งทำให้ไฟป่าพัดโหมกระหน่ำ เบื้องต้นคาดว่า น่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน เจ้าหน้าที่จึงจะสามารถเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งแสดงความกังวล ที่พนักงานดับเพลิงมีทรัพยากรไม่เพียงพอ.

เครดิตภาพ : AFP