เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 68 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อม พล.ต.ต.นฤนาท พุทไทสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน พร้อมชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน ร่วมกันประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัว นายธนาสันต์ หรือตี๋ บ้านหลวง นิลประเสริฐ อายุ 34 ปี ชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายนาค อนันตรังสี อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการครู จ.นนทบุรี เสียชีวิตภายในรถเก๋ง ริมถนนทางหลวงหมายเลข 3011 บางปะอิน-วัดสนามไชย หมู่ 6 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงบ่ายวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
มือปืนอุกอาจตามประกบยิงอดีตข้าราชการครูดับคารถ ตำรวจเร่งล่าคนร้าย

พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งเป็นการทำงานที่รวดเร็วลงพื้นที่ติดตามคดีทันที การก่อเหตุมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี อุกอาจมากก่อเหตุกลางถนนในชุมชน และหลังก่อเหตุมีการวางแผนในการหลบหนี เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งการเปลี่ยนเสื้อผ้า ทิ้งโทรศัพท์ คาดว่า ตัวผู้ต้องหายังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งถ้ายังอยู่ในประเทศไทยเชื่อว่าชุดสืบสวนจะต้องจับได้ภายใน 7 วัน จึงเร่งให้ชุดสืบสวนไปขยายผลติดตาม และได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามชายแดน ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีออกนอกประเทศ หากพบตัวสามารถจับกุมได้ทันที พร้อมกันนี้ทางตำรวจยังอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชน หากใครพบคนร้าย หรือพบบุคคลลักษณะใกล้เคียงกับคนร้าย สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที โดยตั้งรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับบผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุม

ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า ส่วนปมเหตุคาดว่ามาจากเรื่องความแค้นส่วนตัว เพราะผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคดีฐานความผิดพยายามฆ่า แล้วได้มีการติดต่อไปหาผู้ตายเพื่อให้ช่วยหาทนายความให้มาต่อสู้คดี โดยคดีดังกล่าวศาลจะมีการนัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ แต่ระหว่างนั้นเกิดมีความขัดแย้งกัน จึงทำให้ผู้ก่อเหตุนัดผู้ตายออกมาเจอ ส่วนมือถือที่ตำรวจได้หาเจอยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีคนโทรฯ เข้าแล้วไม่ได้รับสายจำนวน 34 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้ตำรวจต้องไปแกะรอยเพิ่มเติม ที่แน่ๆ ยืนยันได้ว่าเบอร์โทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ คือ หมายเลขเดียวกับเบอร์ที่ผู้เสียชีวิตบันทึกชื่อไว้ว่า “ลค ตี๋ใหญ่” ซึ่งอาจจะย่อมาจาก “ลูกความ ตี๋ใหญ่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบข้อมูล เฝ้าติดตามบุคคลใกล้ชิดกับทางผู้ต้องหา และนำตัวมาสอบสวนแล้วบางส่วน พร้อมกับแกะรอยตามเส้นทางทั้งจากกล้องวงจรปิด จากพยาน และเส้นทางการเงินของตัวผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ทราบว่าตัวผู้ต้องหายังไม่กล้าที่จะติดต่อไปหาตัวคนใกล้ชิดให้ช่วยเหลือ เกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามไปจับกุมได้.