สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของคนไข้ชายซึ่งไม่มีการระบุชื่อรายหนึ่ง เข้ารับการรักษาที่มหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชกรรมเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีอาการปวดและบวมที่ดวงตาข้างซ้าย
ผู้ป่วยวัย 24 ปีบอกแพทย์ว่า เขามีอาการดังกล่าวมาประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว แต่อาการเริ่มแย่ลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เขาเคยไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลอื่นในเมืองที่เขาอยู่ แต่หลังจากประเมินการมองเห็นและตรวจหาสิ่งแปลกปลอมแล้ว แพทย์ก็แค่จ่ายยาให้ซึ่งไม่ช่วยให้อาการของเขาดีขึ้น
ต่อมา คนไข้ชายคนนี้ก็เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ ซึ่งแพทย์ก็ยืนยันอีกครั้งว่าการมองเห็นของเขาเป็นปกติและไม่มีสัญญาณของการบาดเจ็บที่ลูกตา
อย่างไรก็ตาม ตาซ้ายของเขายังคงบวมและมีหนองไหลออกมาจากมุมตาซ้ายเล็กน้อย ซึ่งภาพถ่ายได้จากการทำซีทีสแกนส่วนศีรษะของเขาในเวลาต่อมาพบว่า มีสิ่งแปลกปลอมยาว 9 ซม. ฝังอยู่ใกล้เบ้าตาของเขา

จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า วัตถุลึกลับดังกล่าวน่าจะเป็นตะเกียบไม้ที่แทงทะลุเนื้อเยื่ออ่อนนอกเบ้าตาซ้าย ผ่านผนังด้านบนของโพรงไซนัสโหนกแก้มตรงบริเวณขากรรไกรบน และทำลายโพรงจมูกที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อแพทย์ถามคนไข้ว่า เขารู้หรือไม่ว่ามีตะเกียบทะลุเข้าไปติดอยู่ด้านหลังลูกตาซ้ายของเขาได้อย่างไร ผู้ป่วยที่ตกใจอย่างมากจำได้เพียงว่า เขาเคย “ชน” กับเพื่อนในคืนที่ไปปาร์ตี้พร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์ก่อนจะเริ่มมีอาการปวดและบวมที่ลูกตา อย่างไรก็ตาม เขาจำไม่ได้ชัดว่าเคยถูกตะเกียบไม้แทงเข้าไปในโพรงไซนัสของเขา หรือรู้สึกเจ็บปวดจากการที่มีไม้แทงเข้าไปถึงด้านหลังเบ้าตาหรือไม่

ในที่สุด แพทย์ก็สามารถนำเศษตะเกียบไม้ออกจากเบ้าตาซ้ายของคนไข้ชายวัย 24 ปีได้อย่างปลอดภัยโดยการผ่าตัดผ่านโพรงจมูกและไซนัส จากนั้นก็ส่องกล้องตรวจโพรงจมูกเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ หลงเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากในกรณีนี้ เศษตะเกียบนั้นเป็นตะเกียบใช้แล้วจึงไม่สะอาด การทำความสะอาดแผลให้ทั่วจึงมีความสำคัญมาก
แพทย์ชี้ว่า ผู้ป่วยโชคดีมากที่ตะเกียบไม้ไม่ได้แทงไปโดนตา แต่ก็เตือนว่าอาการบาดเจ็บดังกล่าวเป็นอันตรายอย่างยิ่งและควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาโดยเร็วที่สุด น่าเสียดายที่ในกรณีนี้ ชายคนดังกล่าวไม่รู้ตัวว่าได้รับบาดเจ็บเนื่องจากมึนเมาเพราะดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
กรณีเช่นนี้ถึงจะแปลก แต่ก็เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็มีหญิงชาวไต้หวันคนหนึ่งที่มีเศษตะเกียบพลาสติกฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะนานถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ และเมื่อสองสามปีก่อน ก็มีชายชาวเวียดนามอีกคนที่มีเศษตะเกียบฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะเป็นเวลาห้าเดือนโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : Julita from Pixabay, Can Tho University of Medicine and Pharmacy