นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินนวัตร เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 และเป็นเฟสแรกที่แจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในกลุ่มอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยจะเริ่มจ่ายในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า เหตุที่รัฐเลือกแจกเงินให้กลุ่มอายุ 16-20 ปี ไม่ใช่เพราะเป็นกลุ่มน้อย แต่รัฐบาลประเมินตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 เป็นนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซั่น ที่รัฐมองว่าจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ควรจะเป็น ยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินสำรองไว้กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านบาท เพราะมีเวลาที่ต้องใช้ในไตรมาส 3 ย้ำว่ามีกระสุนเพียงพอ
ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน สามารถลงทะเบียนผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปรษณีย์ไทย โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยลงทะเบียนให้ สำหรับเกณฑ์ผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน จะต้องเป็นผู้ใช้ดาต้าหรือข้อมูลไม่เกิน 500 เมกะไบต์ (MB) ย้อนหลัง 3 เดือน หากใช้เกิน ก็จะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ส่วนกลุ่มที่มีสามาร์ตโฟนจะแกล้งทำเป็นไม่มีสมาร์ตโฟนไม่ได้ เพราะรัฐมีการตรวจสอบข้อมูลโดยประสานกับเครือข่ายมือถือ อย่างไรก็ตามวันนี้ (10 มี.ค.) ยังไม่ได้กำหนดกรอบที่จะแจกเงินกลุ่มนี้ ยังไม่มีมติที่ประชุม ซึ่งต้องรอไปดูกรอบระยะเวลาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้สับสนกับโครงการหลักของรัฐบาล
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 นี้ เป็นการเขียนโครงการขึ้นมาใหม่ เพราะมีการยกเลิกเงื่อนไขของโครงการโดยรายการสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะไปกำกับดูแลการเข้าร่วมร้านค้า เช่น ร้านทอง ร้านเหล้าไม่สามารถเข้าร่วมได้ ดังนั้นหากเป็นร้านโชห่วยสามารถซื้อได้หมด และร้านค้าทุกประเภทสามารถเบิกเงินสดได้ ไม่ใช่เฉพาะร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี เพื่อให้เกิดความสะดวกในร้านค้า รวมถึงให้เกิดสภาคล่องของร้านค้า ส่วนรัศมีการใช้จ่ายยังเป็นในพื้นที่อำเภอ รวมถึงสามารถใช้จ่ายค่าเทอม เครื่องใช้ไฟฟ้า ค้าไฟฟ้า น้ำประปาได้