เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับ​นายสมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย และนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมแถลง เปิดเผยถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาด้านประกันภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศไทย

นายชูฉัตร เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า  จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่กระทบต่อธุรกิจประกันในภาพรวม โดยขณะนี้ คปภ. บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่ง  ได้เปิดศูนย์บริการความช่วยเหลือ 24 ชม. และการบริการผ่านระบบโซเชียลมีเดียด้วย พร้อมกับเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบสำรวจภัย  จึงขอให้มั่นใจว่า ผู้เอาประภัยจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไข  เพราะจากการตรวจสอบดัชนีความมั่นคงบริษัทประกันภัยตามกฎหมาย ยังแข็งแกร่งมาก มีเงินกองทุนสูงเกือบ 300% มากกว่าที่กฎหมายกำหนดขั้นต่ำที่ 100%

ส่วนเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ย่านจตุจักรพังถล่มลงมานั้น  สำนักงานคปภ.และ 4 บริษัทประกันที่ร่วมรับประกัน ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายร่วมกัน โดยยืนยันว่าความเสียหายนี้ จะไม่กระทบความมั่นคงของ 4 บริษัทประกันที่ร่วมรับประกัน เนื่องจากบริษัทประกันทั้งหมด ได้มีการบริหารความเสี่ยง ทั้งการประกันภัยต่อต่างประเทศ และมีความคุ้มครองของที่เป็นความรับผิดชอบส่วนแรก โดยผู้เอาประกันรับผิดชอบเองสัดส่วน 20% 

สำหรับประเด็นที่สังคมสงสัยว่ามีการก่อสร้างผิดแบบหรือไม่นั้น  นายชูฉัตรกล่าวว่า จะต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยรับรองจากสภาวิชาชีพวิศวกรรมในการประเมิน และต้องมีหน่วยงานภาครัฐมายืนยัน หากพบข้อเท็จจริงว่า มีการสร้างไม่ถูกต้องตามแบบ บริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง เพราะอยู่ในข้อยกเว้นของสัญญาประกันภัย   

นายสมพร นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ทั้งประเทศมีจำนวน  194,389 ฉบับ  แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑล 95,372 ฉบับ และจังหวัดอื่น ๆ 99,017 ฉบับ  มีทุนประกันกว่า 200,000 ล้านบาท ขณะที่การทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ปัจจุบันมีจำนวนทั่วประเทศ 5.37 ล้านฉบับ  แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2.23 ล้านฉบับ และจังหวัดอื่น ๆ 3.14 ล้านฉบับ โดยในกรณีที่อยู่อาศัยที่ทำประกันอัคคีภัย ได้รับความคุ้มครองจากภัยแผ่นดินไหวไม่เกิน 20,000 บาท และหากผู้เอาประกันตกลงค่าสินไหมตามมาตรฐานที่บริษัท​กำหนด​ ได้​ จะต้องจ่าย​ภายใน​ 15​ วัน

ส่วนผู้ประกอบกิจการร้านค้าทั่วไป สำนักงาน โรงแรม โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ ที่ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้าง ตามจำนวนเงินจำกัดความรับผิด  

สำหรับแนวทางการเรียกเคลมค่าสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหว สมาคมขอแนะนำว่า  หากเป็นพักอยู่อาศัย บ้าน คอนโดมีเนียม ให้มีการถ่ายรูปความเสียหาย รวบรวมไว้ที่นิติบุคคล ส่งให้บริษัทประกันภัยต่อไปหรือแจ้งมาที่บริษัทประกันภัยได้โดยตรง รวมถึงประชาชนที่ที่พักเสียหายและเสี่ยงเกิดอันตราย สามารถดำเนินการซ่อมแซมเพื่อความปลอดภัยได้ก่อน โดยไม่ต้องรอการประเมินจากประกัน แต่ต้องมีการบันทึกภาพความเสียหาย ไว้ประกอบการขอชดเชย

นางนุสรา นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า 20 บริษัทสมาชิกฯได้มีการบริการ ผ่านคอลเซ็นเตอร์ และดิจิทัล เช่น เฟชบุ๊กและไลน์ ให้บริการ 24 ชม. สำหรับความคุ้มครองประกันชีวิต อุบัติเหตุและสุขภาพ ทั้งผู้รับเหมาหลัก และรับเหมาร่วม และประชาชนผู้ประสบภัย ส่วนของผู้ประสบภัยตึกย่านจตุจักรถล่ม เรายังไม่เจอประกันกลุ่มกับประกันชีวิต แต่เรากำลังเร่งตรวจสอบรายชื่ออยู่