เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เวชปฏิบัติทางประสาทวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและความผิดปกติทางประสาทวิทยา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเคสผู้ป่วยชายวัย 58 ปี ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังมานานถึง 6 เดือน โดยเข้ารับการตรวจรักษามาหลายแห่งแต่ไม่พบสาเหตุ และรับประทานยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์ยาเสพติด (codiene) ก็ไม่ทุเลาลง ผู้ป่วยมีอาการปวดหัว ชาหัว และอาการยิ่งแย่ลงเมื่อนอนพักผ่อน
จากการตรวจเอกซเรย์และ CT สแกนสมอง พบว่าสมองของผู้ป่วยอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ป่วยมาพบ ผศ.นพ.สุรัตน์ สิ่งที่แพทย์สังเกตเห็นคือลักษณะท่าทางที่ผิดปกติของผู้ป่วย โดยคอยื่นไปข้างหน้าอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกับลักษณะคอของนกแร้ง เมื่อสอบถามถึงอาชีพ ผู้ป่วยแจ้งว่าทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานมากในแต่ละวัน มากกว่า 6 ชั่วโมง และมีท่านั่งคือโค้งตัวและยื่นคอไปข้างหน้าเป็นประจำ
ผศ.นพ.สุรัตน์ ได้ทำการตรวจบริเวณคอของผู้ป่วย และพบว่าเมื่อกดแล้วผู้ป่วยมีอาการร้าวขึ้นศีรษะ รู้สึกแปล๊บ ตึง และชา ซึ่งเป็นอาการที่บ่งชี้ถึง cervicogenic headache หรืออาการปวดหัวที่มีสาเหตุมาจากกระดูกคอ กล้ามเนื้อบริเวณคอที่ตึงเกร็งพยายามพยุงคอที่อยู่ในท่าทางผิดรูปเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
ผลการเอกซเรย์กระดูกคอของผู้ป่วย พบว่ากระดูกคอมีการเบี้ยวและเสื่อมสภาพอย่างมาก ผศ.นพ.สุรัตน์ จึงรีบส่งตัวผู้ป่วยไปพบแพทย์กายภาพบำบัดและแพทย์กระดูก เพื่อทำการรักษาและป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม
จากกรณีนี้ ผศ.นพ.สุรัตน์ ได้ให้ข้อคิดและคำแนะนำที่สำคัญดังนี้:
การเล่นคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน โดยมีลักษณะคอยื่น จะส่งผลให้กระดูกคอเสื่อมสภาพได้
อาการปวดหัวอาจมีสาเหตุมาจากบริเวณคอได้ ดังนั้นในการตรวจวินิจฉัย ไม่ควรพิจารณาเพียงแค่บริเวณศีรษะและสมองเท่านั้น
หากเข้ารับการรักษาจากแพทย์คนแรกแล้วอาการไม่ดีขึ้น การปรึกษาแพทย์คนที่สองก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากแพทย์แต่ละท่านอาจมีมุมมองในการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ผศ.นพ.สุรัตน์ ยังได้แนะนำแนวทางการป้องกันและจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงของอาการดังกล่าว:
ปรับโต๊ะทำงานให้ถูกหลัก Ergonomic: จัดให้หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา เท้าวางราบกับพื้น และมีที่พักแขน
ใช้กฎ 20-20-20: ทุก 20 นาที ให้ละสายตาจากหน้าจอ มองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที
ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อคอและหลัง
ผศ.นพ.สุรัตน์ ทิ้งท้ายไว้ว่า การดูแลรักษาสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
ขอบคุณเพจ สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์