เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ที่ ศาลเจ้ากวนอู อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ นายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ นายกสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน เต็กก่า จีโหงวเกาะ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับ พ.อ.วิเศษศิลป์ แสนภูวา สัสดี จ.กาฬสินธุ์, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์, เครือข่าย, คณะครู, นักเรียน, นักศึกษาวิชาทหาร, อส. และประชาชนทั้งจากจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน ร่วมกันแสดงพลังน้ำใจ โดยช่วยกันลำเลียงยางรถยนต์เก่ากว่า 3,000 เส้น ที่ได้รับบริจาคจากบริษัท ห้างร้าน พ่อค้า แม่ค้า และประชาชน เพื่อขึ้นรถบรรทุกเตรียมส่งมอบให้กับทหารแนวชายแดน

ยางรถยนต์เก่ากว่า 3,000 เส้นนี้ จะถูกนำไปส่งมอบให้ทหาร เพื่อใช้สร้างบังเกอร์ ปกป้องรักษาอธิปไตย เสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวป้องกันประเทศตามแนวชายแดนหลายจังหวัดในเขตอีสานใต้ ได้แก่ ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และ สุรินทร์ นอกจากนี้ ยางรถยนต์ยังจะถูกนำไปใช้ในการสร้างหลุมหลบภัยให้กับนักเรียนและประชาชนในพื้นที่ชายแดนด้วย การจัดหายางรถยนต์ใช้เวลาเพียง 2 วัน หลังจากได้มีการประเมินสถานการณ์ในเขตพื้นที่ชายแดนและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหน้าถึงความจำเป็นในการใช้งานเพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์

นอกจากการลำเลียงยางรถยนต์แล้ว ในพิธีดังกล่าว ยังมีการมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และวัตถุมงคล พระผงเนื้อว่านไพรดำรุ่น “เจริญพร” ของ พระราชศีลโสภิต หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร พระเกจิชื่อดังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ผ่านพิธี พุทธาภิเษก ถึง 6 วาระ โดยมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม คุ้มครอง ป้องกันภัย มอบให้กับทั้งผู้ที่มาร่วมช่วยลำเลียงขนยางรถ และที่สำคัญคือมอบให้กับ ทหารกล้า ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พวกเขามีพลังใจในการทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ

นายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ นายกสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน เต็กก่า จีโหงวเกาะ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์การปะทะในพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดน และได้ประเมินสถานการณ์แล้ว จึงมีความเห็นว่าต้องรีบระดมสิ่งของและยางรถยนต์เก่าส่งมอบให้ทหารตามแนวชายแดน ทั้งนี้ การใช้ยางรถยนต์เก่านั้น ได้มีการประสาน ปรึกษา และสอบถามจากเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหน้าถึงความจำเป็นและการใช้งานที่ตรงเป้าประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำบังเกอร์เสริมความแข็งแกร่งให้กับทหารตามฐานปฏิบัติการ และการสร้างหลุมหลบภัยให้กับนักเรียนตามสถานศึกษาและประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี, สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ

นายเก่งกาจ กล่าวย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการร่วมกันแสดงออกถึงพลังน้ำใจของคนไทย ที่รักและปรารถนาดีต่อทหารกล้า และประเทศชาติ พร้อมทั้งหวังว่าวัตถุมงคลที่มอบให้จะช่วยเสริมขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน โดยเน้นย้ำว่ากระบวนการในการจัดทำแนวป้องกันวิถีกระสุนนั้น ยังต้องมีขั้นตอนการทำงานในภาคสนามอีก เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและเหล่าทหารกล้าผู้รักษาอธิปไตยของชาติให้ปลอดภัยที่สุด