วันนี้ “เดลินิวส์” นำข้อมูลจากเพจรามาแชนแนล โดยผศ. ดร. นพ.ไพฑูรย์ เบ็ญจพรเลิศ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พูดถึง “นิ้วล็อก” Trigger Finger คือ การอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นบริเวณโคนนิ้วมือ เวลาขยับนิ้วอาจรู้สึกเหมือนมีการ “คลิก” หรือ “กระตุก” และบางครั้งนิ้วจะล็อกค้างอยู่ในท่ากำหรืองอ

สาเหตุของ “นิ้วล็อก”
- พิมพ์งานติดต่อกันหลายชั่วโมง
- ซักผ้าและบิดผ้าบ่อย ๆ
- การหิ้วของหนัก
- การจับปากกาที่แน่น ๆ เช่น เทนนิส แบดมินตัน
- เล่นมือถือเป็นเวลานาน
อาการของ “นิ้วล็อก” เป็นอย่างไร
- ระยะที่ 1: ปวดบริเวณโคนนิ้วมือแต่ยังไม่มีการสะดุด ระหว่างการเคลื่อนไหวนิ้ว รู้สึกตึงและเจ็บเล็กน้อยบริเวณโคนของนิ้วมือ
- ระยะที่ 2: ติดขัดขณะขยับนิ้ว และอาจรู้สึกว่ามีเสียง “คลิก” ระหว่างที่งอและเหยียดนิ้ว
- ระยะที่ 3: นิ้วติดล็อก แต่ยังสามารถเหยียดออกได้ โดยการใช้มืออีกข้างช่วยแกะ
- ระยะที่ 4: นิ้วล็อกค้างถาวร ไม่สามารถขยับได้เอง และมีอาการปวดตลอดเวลา

การรักษาอาการ “นิ้วล็อก”
ถ้าเป็นระยะ 1-2 ก็จะรักษาด้วยการ
- การกินยาแก้ปวด
- พักการใช้งานของนิ้ว
- อาจพิจารณาอุปกรณ์ดามนิ้ว เพื่อป้องกันการใช้งานของนิ้ว
- อาจมีการใช้เครื่องอัลตราซาวนด์เลเซอร์
ระยะ 3-4
- การฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะที่
- ผ่าตัดปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่หนาตัวให้เปิดขยายขึ้น และทำให้เส้นเอ็นขยับได้คล่องตัวขึ้น

การป้องกัน “นิ้วล็อก”
- ไม่ใช้คอมพิวเตอร์หรือถือโทรศัพท์นานจนเกินไป
- ไม่หิ้วของหนักเกินไป
- ไม่หัก ดีด หรือเหยียดนิ้ว
- หลีกเลี่ยงการซักผ้าด้วยมือ
- นำผ้ามาพันรอบด้ามอุปกรณ์กีฬา