นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดโครงการ จับคู่กู้เงิน ลุยตลาด อาร์เซป เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้เอสเอ็มอีขยายตลาดส่งออกไปยัง 14 ประเทศสมาชิก โดยมีเงื่อนไขสินเชื่อที่ผ่อนปรน ดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาดทั่วไป คิดเพียง 2.75% ต่อปีในปีแรก วงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ที่สำคัญจะมีคำตอบอนมัติภายใน 7 วันทำการ โดยมีวงเงินสินเชื่อไว้รองรับมากกว่า 3,000 ล้านบาท  

นอกจากนี้ มี บสย.มาช่วยค้ำประกันให้ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทที่ผ่อนปรน ที่สำคัญจะมีการเดินสายจัดงานทั้งในกรุงเทพฯ และ 4 ภูมิภาคด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพในต่างจังหวัดได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้คล่องตัวสะดวกขึ้น รวมถึงจะมีระบบออนไลน์ในการยื่นเงื่อนไขเพื่อให้สะดวกขึ้น มีระยะเวลาดำเนินโครงการถึง 1 ปี  

สำหรับสินเชื่อจับคู่กู้เงิน ลุยตลาด อาร์เซป จะครอบคลุมทั้งการส่งออก การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ และการลงทุนกับประเทศสมาชิก ได้แก่ กลุ่มชาติในอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเอฟทีเอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกัน 1 ใน 3 ของประชากรโลก และจีดีพีประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งโลก โดยไทยจะส่งออกสินค้าไปยังสมาชิก ซึ่งเสียภาษีเป็นศูนย์ 39,366 รายการ และเป็นศูนย์ทันทีถึง 29,891 รายการ ดังนั้น การเตรียมการสำหรับการบุกตลาดอย่างเป็นรูปธรรม จึงมีความสำคัญในการนำรายได้เข้าประเทศอย่างมาก 

“ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้เป็นเจ้าภาพร่วม จัดโครงการจับคู่กู้เงินมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64-ต.ค. 64 สามารถปล่อยกู้ให้กับร้านอาหารทั่วประเทศได้ 2,895 ราย วงเงิน 2,627 ล้านบาท ส่วนครั้งที่ 2 จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับเอสเอ็มอีส่งออก ช่วงเดือน ก.ค. 64-28 ก.พ. 65 ปล่อยกู้ได้ 611 ราย วงเงิน 4,000 กว่าล้านบาท และครั้งที่ 3 ได้เตรียมวงเงินรองรับไว้ 3,000 ล้านบาท”