จากกรณี บริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด ชนะการประมูลการสัมปทานรังนกอีแอ่น หมู่เกาะสี่-เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 400 ล้านบาท แต่หลังจากลงพื้นที่สำรวจหลายถ้ำ กลับพบว่ารังนกถูกขโมยไปจำนวนมาก ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยเฝ้าปากถ้ำอยู่ตลอดเวลา โดยคนร้ายเลือกวิธีจุดกองไฟใช้ควันไล่แม่นก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฟักไข่ ทำให้ลูกนกตายไปจำนวนมาก สร้างความเสียหายทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันยังพบหลักฐานที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ มีทั้งเบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีของตำรวจ 2 นาย รวมทั้งเสื้อชูชีพ ที่เป็นของ อส.จ.พัทลุง 1 ตัว โดยล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ตามข่าวที่ “เดลินิวส์” นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

“บิ๊กใหม่”ลุยล่าคนร้ายจุดไฟเผาขโมยรังนกนางแอ่น เสียหายกว่า 5 พันล้าน

ดีเดย์ 20 ก.ย.! ‘บิ๊กใหม่’ลุยพัทลุงสางคดี-แกะรอย ลากคอขบวนการ ‘ขโมยรังนก’

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพัทลุงลงพื้นที่เกาะรังนก เพื่อตรวจเก็บหลักฐานและดีเอ็นเอจากคนงานของบริษัท และจากวัตถุพยานหลักฐาน เป็นวันสุดท้าย พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน บก.ภ.จว.พัทลุง และตำรวจ สภ.ปากพะยูน ภายในการนำของ ได้ตั้งวอร์รูมทั้งบนเกาะและที่บริเวณท่าเรือบนฝั่ง หมู่ 9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เพื่อความสะดวกดำเนินการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหาตัวผู้กระทำผิดที่เข้าลักขโมยรังนกในช่วงที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ดูแล ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะตรวจดีเอ็นเอจากคนงานทั้ง 3 ชุดให้ครบภายในวันนี้ นอกจากนั้นชุดทีมสืบสวนสอบสวนจะได้นำหัวหน้าคนงานเก็บรังนก พร้อมลูกทีมสาธิตวิธีการเก็บรังนกตามผนังภายในถ้ำเพื่อจำลองเหตุการณ์

สำหรับจัดเก็บหลักฐานด้านเคมี ฟิสิกส์ และนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งตรวจสอบการเก็บรังนกร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทภายในถ้ำรื่นและถ้ำอื่นๆ ซึ่งได้ข้อมูลมาระดับหนึ่งประกอบกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ พอทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตามประกบผู้ต้องสงสัยไว้เบื้องต้นประมาณ 5 ราย ในพื้นที่ของ อ.ปากพะยูน และพื้นที่ อ.บางแก้ว ของ จ.พัทลุง เมื่อหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้สมบรูณ์ ก็จะขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาชุดแรกในเบื้องต้น ก่อนนำตัวมาสอบปากคำขยายผลให้ถึงตัวผู้บงการ

ด้าน นายพา ผอมขำ เลขาฯ นายก อบจ.พัทลุง กล่าวว่า ปัญหาคนร้ายขโมยรังนกและจุดไฟภายในถ้ำรังนกขนาดใหญ่หลายๆแห่งนั้น เป็นปัญหาใหญ่ของ จ.พัทลุง รังนกที่หายไป ถ้าหากแม่นกยังอยู่ก็สามารถกลับมาสร้างรังใหม่ได้ แต่ถ้าหากมีการก่อไฟภายในถ้ำ ทำให้อุณภูมิภายในถ้ำเปลี่ยนไป แม่นกก็จะหนีไปอาศัยสร้างรังที่อื่น และจะทำให้ประชากรนกลดลง ความเสียหายจะส่งผลต่อชาวพัทลุงทุกคน และเป็นการทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งก็เชื่อว่าในไม่ช้าก็จะเห็นโฉมหน้าของคนร้าย แต่จะตัดตอนสาวไปถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ก็ค่อยๆติดตามกันไป

นายพา กล่าวอีกว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ ชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง ที่ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามตรวจสอบกรณีคนร้ายขโมยรังนกมาตั้งแต่ต้น กำลังเตรียมเอกสารและข้อมูลหลายๆด้าน เพื่อเดินทางไปสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นหนังสือถึงกรรมาธิการ 3 คณะ ประกอบด้วยกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมาธิการการปกครองและกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ลงมาแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย.