เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่รับคำร้องกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กรณีการถือหุ้นสื่อไอทีวี 42,000 หุ้น แต่สั่งให้ดำเนินการไต่สวนเรื่องดังกล่าว เนื่องจากคำร้องมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนไต่สวนว่า นายพิธาเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า (พ.ร.ป.) ด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นั้น ที่ผ่านมาในวงหารือของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ไม่เคยนำกรณีที่นายพิธา ถูกร้องขึ้นมาหารือ เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล 

ทั้งนี้ แต่เมื่อ กกต. ตั้งกรรมการไต่สวนขึ้นมา ทางแกนนำพรรค พท. มีความเป็นห่วงว่า ประเด็นดังกล่าวจะกระทบกับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องจัดการเอง พรรค พท. ได้แต่ให้กำลังใจ และขออย่าให้ประเด็นนี้เป็นอุปสรรคกับการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากพรรค พท. มุ่งมั่นให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จไปได้ด้วยดี และยังไม่คิดต่อไปว่าหากเกิดอะไรขึ้น ทางออกของการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เพราะวันนี้พรรค พท. ยังเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกล จะเดินหน้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้.