ขณะที่พลพรรคของแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ยังส่งเสียงไชโยโห่ร้องลั่นสนั่นที่ทำการพรรค ต้อนรับการคืนถิ่นในรอบ 17 ปีของ ผู้ก่อตั้งตัวจริง อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกขวัญกำลังใจของสมาชิกพรรคและมวลชนคนเสื้อแดงให้ฟื้นคืน ขณะที่เจ้าตัวโปรยยาหอมว่า ถ้า สส. คนไหนอยากให้ไปลงพื้นที่ใด ขอให้บอก พร้อมจัดคิว

หันมามองฟากฝั่ง “รัฐนาวาเศรษฐา” ที่เข้ามาบริหารงานขับเคลื่อนประเทศมานาน 6 เดือน ถูกมองว่ายังไม่มีผลงานปรากฏแบบปังๆ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีสุดแอคทีฟคนนี้ ลงพื้นที่ถี่ยิบไปหลายจังหวัด

แถม เดินสายเยือนต่างแดนรวม 14 ประเทศ ร่วมการประชุมนานาชาติ พร้อมสวมบทบาท เซลส์แมน โชว์วิสัยทัศน์และศักยภาพของประเทศไทย เจรจากับบรรดาผู้นำประเทศและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 60 แห่ง หวังสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริมความร่วมมือ พร้อมกับชักชวนให้เข้ามาลงทุนในบ้านเรา

ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ใน ปี 2566 ได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ารวม 850,000 ล้านบาท ถือเป็น ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และประเมิน เม็ดเงินลงทุน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกิจกรรมโรดโชว์และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล รวมประมาณ 558,000 ล้านบาท

ในแง่มุมเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน รัฐบาลกำลังพยายามเร่งขับเคลื่อนนโยบาย เติมเงินให้ประชาชน 10,000 บาทผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” แถมการ ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท จะมีผลโดนใจใน วันปีใหม่ไทย 13 เม.ย. 2567 นำร่องใน 10 จังหวัด หากสิ่งเหล่านี้เกิดผลได้จริง คงเติมเรตติ้งให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้ตุนเพิ่ม

แต่อย่าเพิ่งใจฟูแฮปปี้ๆ เพราะยังมีอุปสรรคข้างหน้าอีกมาก ที่รอให้รัฐนาวาลำนี้ต้องฝ่าฟัน ซึ่งรวมทั้งศึกสำคัญก่อนจะถึงวันปิดสมัยประชุมสภา นั่นคือ เวทีอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. นี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล จัดทัพ สส. ลับมีดรอชำแหละเหล่า “นโยบายเรือธง” ของรัฐบาลที่ยังไม่ไปถึงไหน แม้งานนี้ สส. ไม่มีการลงมติ แต่ข้อมูลต่างๆ สามารถถูกหยิบใช้ขยายผลขยี้ใจผู้มีอำนาจได้อีกยาว

ขณะเดียวกัน สังคมยังจับจ้องและตั้งคำถามต่างๆ กับรัฐบาลต่อ เรื่อง 2 มาตรฐาน ในกระบวนการยุติธรรม จากกรณีของ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ตอกย้ำ ความเหลือมล้ำ ในบ้านเมือง จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตั้งรับและจัดการให้ได้

หากเดินหมากพลาดพลั้ง และยังปล่อยให้มีการกระทำใดๆ ที่ไม่เกรงใจประชาชน แต่ละก้าวย่างของรัฐบาลนับจากนี้ อาจต้องเผชิญหลายสิ่งโถมกระหน่ำ และเสี่ยงตกหลุมดำฉุดลงเหวให้พ่ายแพ้.