หลังมีการปลดล็อกกระท่อมจากบัญชียาเสพติด ทำให้ตอนนี้มีการตื่นตัว เริ่มเห็นมีจำหน่ายใบกระท่อมสด ต้นพันธุ์ บ้างก็แปรรูปต้มเป็นน้ำ ชาวบ้านเชื่อในสรรพคุณทำให้มีกำลังวังชา นิยมนำใบมาเคี้ยวสด ๆ ก่อนทำงานหรือยามเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า พืชผักสมุนไพรไทย หลากหลายชนิดมาแรงจริง ๆ จะเรียกว่าเป็นปีทองก็พอไหว ตัวอย่างของปีนี้ในห้วงแห่งมหาวิกฤติโควิด-19 สมุนไพรไทย เข้ามามีบทบาทไม่น้อย โดยเฉพาะ ฟ้าทะลายโจร, กระชาย, ขิง, ข่า, หัวหอม, มะนาว ฯลฯ โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร และกระชาย ถูกนำมาสกัดเพื่อทำยาสมุนไพรคึกคัก
วันก่อนศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (TTB Analytics) ของธนาคารทหารไทยธนชาต รายงานปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยมีการปรับตัวสูงมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 80% ของจีดีพี ณ สิ้นปี 62 เป็น 90.5% ของจีดีพี ในไตรมาส 1/64 และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยที่ลุกลามยืดเยื้อมาจนถึงครึ่งหลังปี 64 จึงคาดการณ์ว่า ระดับหนี้ครัวเรือนของไทยอาจเพิ่มขึ้นไปถึง 93.0% ณ สิ้นปี 64
หลังจาก ศบค.ตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการกิจกรรมบางอย่าง มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. บรรยากาศทั่วไปในหลายพื้นที่เริ่มจะกลับมาคึกคัก หลายหน่วยงาน องค์กร หรือออฟฟิศต่าง ๆ ทยอยกลับมาทำงานกันปกติ ก่อนหน้านี้ต้องเวิร์กฟรอมโฮม ท่ามกลางมาตรการค่อนข้างเข้มข้นเกือบทุก ๆ ด้าน
จากคดีการซ้อมทรมานผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ’ผู้กำกับโจ้ เฟอรารี่“ นอกจากจะกลายเป็นเรื่องที่สร้างความสั่นสะเทือนทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระบวนการยุติธรรมเมืองไทย ยังแตกแขนงไปหลากหลายมุม หลากหลายมิติ เรียกว่าเป็นหนังเรื่องยาวยังไม่จบง่าย ๆ
ปัญหาเรื่องการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย ด้วยฝีมือกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐนอกรีต ซึ่งร่วมกันกระทำผิดกฎหมาย เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของสังคมไทย เนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งมีอำนาจกฎหมายอยู่ในมือและยังป็นผู้รู้กฎหมายอย่างช่ำชอง
สภาพอากาศเดือนกันยายนของทุกปี คือตัวชี้วัดว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วม หรือเกิดปัญหาภัยแล้งในปีหน้า การรายงานคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ยังมีฝนตกหนัก 70-80% ของพื้นที่เกือบทุกภาคของประเทศ
รายงาน ตามเกาะติดปฏิรูปตำรวจ ที่เดินหน้าผ่านมาแล้ว 7 ปี ขณะนี้ยังไม่รู้รูปร่างหน้าตาของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ บทสรุปแล้วจะออกมาเป็นเช่นไร?
สัปดาห์ที่แล้ว รายงานพิเศษ นำเสนอเรื่องราวคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ (นรต.57) นายตำรวจหนุ่ม อายุเพียง 39 ปี อนาคตต้องดับวูบลงเมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีหลังก่อเหตุใช้ถุงคลุมทรมานผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต
ถึงแม้ผลลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรี จะได้รับเสียงจากมติในที่ประชุมไว้วางใจทั้งหมด โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนไว้วางใจ 264 เสียง ไม่ไว้วางใจ 208 เสียง และ งดออกเสียง 3 เสียง
ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ผู้คนทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่ายากดีมีจน ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้าแตกต่างกันไป แต่ยังมีอีกโครงการของภาครัฐที่น่าจับตามองไม่น้อย เดินหน้าลงไปช่วยชาวบ้านอย่างเงียบ ๆ พุ่งเป้าไปที่ เกษตรกร-ชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ให้มีที่ดินทำกินและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเลี้ยงตัวเอง
คดี ผู้กำกับโจ้-พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นอกจากจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับยุทธจักรสีกากีและกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังสะท้อนไปถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อีกทั้งยังเป็น ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งรับผิดชอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตรง
แม้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ จะเข้ามอบตัววันแรกสารภาพไม่มีเจตนาฆ่า ภายหลังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ถูกส่งเข้าเรือนจำพิษณุโลก ส่วนคดีถูกโอนมาให้กองบังคับการตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นเรื่อง ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ไม่ได้เฉพาะในประเทศไทยแต่ถูกตีแผ่ไปทั่วโลก
สัปดาห์ก่อนมีข่าวเครือข่าย “หมอคนดัง” ประกาศทวงคืนสมบัติชาติ นั่นคือการทวงคืนดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 หลังจากมีการล้มประมูลใบอนุญาตการใช้สิทธิตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม สิ่งที่ต้องกระทำต่อไปคือการทวงคืนไทยคม 7 และ 8 ซึ่งทางไทยคมอ้างว่าเป็นสิทธิของเขาที่ได้ใบอนุญาต ไม่ใช่ระบบสัมปทานที่จะสิ้นสุดในวันที่ 10 ก.ย. 64
ในช่วงที่เมืองไทยยังอยู่ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างช็อกสังคมไทยเป็นอย่างมาก กับพฤติกรรมของ ‘กลุ่มสีกากีนอกรีต’ ที่ร่วมกันใช้ถุงคลุมหัว ทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิตแบบเลือดเย็น
