“การเมือง…ไม่มีสิ่งใดแน่นอน ไม่เก่งก็ล้ม ถ้าเก่งเกินไปก็ถูกล้มอยู่ดี”

เดี๋ยวนี้คดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มักจะมีความโหดเหี้ยมและเลือดเย็นขึ้นเรื่อยๆ ผิดจากเมื่อก่อน ถ้าไม่ใช่คดีใหญ่หลวงจริงๆ โกรธแค้นกันมานานจริงๆ เมื่อเกิดการกระทบกระทั่งแล้วพลั้งมือฆ่าแกงกัน ฝ่ายที่ก่อเหตุก็จะตื่นตระหนกแล้วเผ่นหนีไป หรือไม่ก็ยอมมอบตัวรับผิด

แต่ในระยะหลังนี้คดีเปลี่ยนแปลงไปมาก หากเกิดการพลั้งมือฆ่าแกงกันแล้วจากความไม่ตั้งใจ พอตั้งสติได้ แทนที่จะยอมมอบตัวเลยเพื่อสำนึกผิดหรือไม่ก็รีบเผ่นหนีไป แต่กลับจัดแจงหาวิธีอำพรางศพ อำพรางคดีอย่างเลือดเย็น แล้วไม่คิดเลยหรือว่าคนที่เราลงมือไปนั้น “เป็นญาติ” ของเราเอง แทบจะเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน เช่นเดียวกับคดีสะเทือนขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี เข้าไปตรวจสอบ บ้านเลขที่ 76 หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีศพถูกโบกปูนเอาไว้ในบ้าน เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านมีวัสดุสิ่งของ เศษอะลูมิเนียม กระจก วางเกะกะอยู่ และที่สัมผัสได้ชัดๆ คือ กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงพุ่งโชยออกมาจากในบ้านตรงห้องนอน

พอตรวจสอบก็พบกองปูนซีเมนต์ที่แห้งแล้วอยู่ในลักษณะแปลกๆ มันนูนๆ มีส่วนเว้าส่วนโค้งแบบร่างกายมนุษย์ เห็นเป็นรูปร่างหัว ช่วงลำตัว แขน ลากยาวไปถึงขา มีแผ่นไม้กระดานกั้นเป็นคอกสี่เหลี่ยมเพื่อไม่ให้ปูนไหลออกมาตอนเท

เมื่อใช้ชะแลงงัดและเอาค้อนปอนด์ทุบออก ความจริงก็ปรากฏทันที ศพนี้เป็นผู้ชาย สภาพเน่าเปื่อยขึ้นอืดแล้ว โดยสวมกางเกงยีน คาดเข็มขัดหนัง ไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้ามีผ้านวมปิดทับร่างไว้ ต้องส่งไปให้ชันสูตรอัตลักษณ์ว่าเป็นใครให้ชัดๆ
          
คนพบศพคนแรกคือ นายคงฤทธิ์ หวาดด้วงดี อายุ 28 ปี บอกเล่าว่า มั่นใจว่าผู้ตายคือ นายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า อายุ 55 ปี เป็นพ่อตาของผมเอง หายออกจากบ้านไปนานกว่า 1 เดือน ก่อนจะเจอศพนั้น ผมกับภรรยาเตรียมตัวจะย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ ผมเลยมาทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านก่อน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าทันที จากนั้นก็เดินตามหากลิ่นจนเจอกองปูนขนาดเท่าตัวคนนี่แหละ

ตำรวจได้เบาะแสเพิ่มจาก นางลำเพียร พรหมเมืองเก่า อายุ 72 ปี แม่ผู้ตาย ที่ให้ข้อมูลว่า ลูกชายมีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน มีนิสัยเจ้าชู้ มีภรรยาหลายคน ช่วงกลางเดือน เม.ย. ลูกชายบอกว่าจะไปทำบุญที่ สปป.ลาว ในวันที่ 22 เม.ย. จากนั้นก็หายไปแล้วติดต่อไม่ได้อีกเลย แต่ที่ไม่เอะใจเพราะเขาก็จะหายไปอย่างนี้บ่อยครั้ง

ชุดสืบสวนไม่รอช้า รีบเชิญตัวคนในครอบครัวทุกๆ คน ไปสอบปากคำ สุดท้ายเมื่อโดนเค้นสอบอย่างละเอียดยิบ ในที่สุดฆาตกรก็ยอมรับสารภาพจนได้ แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น นายอานุภาพ กัญญาคำ หรือ “อาม” ผู้ที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ตายนั่นเอง

“ศพที่ถูกโบกปูนนั้นคือลุงผมเองคือ นายไพโรจน์ จริงๆ ผมได้พลั้งมือสังหารและโบกปูนเพื่ออำพรางศพไว้ เขากับผมได้ทำงานรับเหมางานติดตั้งอะลูมิเนียมและกระจกร่วมกัน เขาติดค้างเงินผมอยู่ 3 หมื่นบาท เป็นเงินค่าแรงรับเหมาก่อสร้างที่เขาเบี้ยวผมมาตลอด ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปทวงเงินคืนเพื่อที่จะใช้สมทบทุนในการแต่งงานของผม แต่ปรากฏว่าเขาไม่ให้ สุดท้ายก็กลายเป็นทะเลาะกัน”

ไอ้อาม สารภาพเพิ่มว่า ผมเก็บความเจ็บแค้นไว้ในใจ ผมต้องเป็นหนี้ ต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนองเป็นเงิน 40,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในงานแต่งงาน หลังจบงานไปทวงลุงก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้งและใช้คำพูดรุนแรงด้วย เมื่อสบโอกาสจึงคว้าท่อนไม้ไปกระหน่ำตีแบบไม่ยั้ง ในขณะที่ผู้ตายนั่งหันหลังอยู่ในห้องนอนจนแน่นิ่งไป พอตั้งสติได้ก็รีบไปที่ร้านวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างแล้วซื้อปูนซีเมนต์มาโบกทับอำพรางศพลุง จากนั้นก็ทำตัวใช้ชีวิตเป็นปกติเพื่อไม่ให้ใครสงสัย

ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยซ่อนเร้นอำพรางย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ ส่วนของกลาง และทรัพย์สินของผู้ตาย 

นี่เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างที่สร้างความสลดใจและสะเทือนอารมณ์มาก นอกจากจะไม่สำนึกผิดที่ได้ทำร้ายญาติของตัวเองจนสิ้นใจแล้ว ยังกล้าที่จะไปหาซื้อวัสดุก่อสร้างมาโบกปูนอำพรางศพอีก ที่สำคัญที่สุด ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 วันหลังฆ่า..ในจิตใจไม่รู้สึกรู้สาหรือสะทกสะท้านอะไรเลยหรือ.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

น้ำใจสู้โควิด
ความวิตกกังวลของคนทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย จังหวัดหนองบัวลำภู และ อำเภอศรีบุญเรือง เมื่อสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิดไม่มีท่าทีว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของจังหวัดหนองบัวลำภู ยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่รายเดียว แต่ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้ออาจทะลุถึง 60 รายในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อถึงเวลานี้ น้ำเอยน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ว่าแล้ว พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง เกี่ยวก้อย นายคมสันต์ ไสยรัตน์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร) สภ.ศรีบุญเรือง และ คณะกรรมการ กต.ตร.สภ.ศรีบุญเรือง ทุกคนนำน้ำดื่มบริสุทธิ์มอบให้กับ พญ.ดวงสุดา ดาวเศรษฐ์ ผอ.โรงพยาบาลศรีบุญเรือง เพื่อเตรียมไว้ใช้ในฤดูกาลฉีดวัคซีนระลอกใหม่

มีแล้วแบ่งปัน
พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง น.ส.รมย์นลิน อินพิทักษ์ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง, พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน ผกก.สภ.เมืองระยอง, พ.ต.อ.หญิง ลินดา ผุดผ่อง ผกก.ฝอ. ข้าราชการตำรวจ และคณะแม่บ้านตำรวจ จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “มีแล้วแบ่งปัน” โดยได้รวบรวมสิ่งของอุปโภค บริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ดังนี้ 1.จัดชุดตำรวจสายตรวจในพื้นที่นำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนถึงบ้าน จำนวน 100 ครัวเรือน 2.แจกข้าวกล่องให้พี่น้องประชาชนที่ใด้รับผลกระทบและเดือดร้อน ณ หน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

เป็นพระราชกุศล 
พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.3 บก.ทท.1 พร้อมด้วย ข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมกิจกรรมจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “มีแล้วแบ่งปัน” มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ให้กับโรงพยาบาลสนาม (รพ.แพทย์แผนไทย) วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจเยี่ยมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ บริเวณฐานปฏิบัติการแมงป่อง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตามมาตรการการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.บ้านกรวด, พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ หาญยิ่ง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ปรก.หน.นปพ. และคณะ พร้อมด้วย ทหาร ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมตรวจเยี่ยมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ บริเวณฐานปฏิบัติการแมงป่อง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตามมาตรการการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโควิด ในการมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่

มอบสิ่งของช่วย
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นางสาวสุพิชา สอนบุญลา พัฒนาการอำเภอชุมแพ ร่วมกันมอบสิ่งของแก่ประชาชนผู้มีความเดือดร้อนตามโครงการ “คู่เสี่ยว เกี่ยวก้อย” แก้จนคนขอนแก่น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ในการแก้ไขปัญหาความยากจน และยกระดับคุณภาพชีวิตของครัวเรือนยากจนในพื้นที่ ตอบสนองทิศทางการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น ณ บ้านอาจสามารถ ต.นาเพียง อ.ชุมแพ

บันทึกข้อตกลง
พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เป็นประธานในพิธี ร่วมบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือ (MOU) ตามโครงการประชาร่วมใจแก้ไขปัญหายาเสพติด ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยมี พ.อ.สุจิรชัย มหาธรรม รอง ผอ.รมน.จังหวัด บ.ก.(ท) มอบหมายให้ ร.ท.มานิตย์ พลเยี่ยม รอง หน.กลุ่มงานประสานความมั่งคงทำให้ ประชาชนในพื้นที่มีความประทับใจที่มีโครงการฯ ลงมาแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน

ชุมชนยั่งยืน  
พ.ต.อ.ธีร์ธัชช์ พงษ์สุวรรณ์ ผกก.สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ของ สภ.หนองสองห้อง โดยมี ดร.วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายจักรพรรดิ จิธนาทรัพย์ ประธาน กต.ตร.สภ.หนองสองห้อง สาธารณสุขอำเภอหนองสองห้อง หน.ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระครูโสภิตธรรมาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดรามศิริวาส ผู้นำชุมชน ข้าราชการตำรวจ สภ.หนองสองห้อง กลุ่มแม่บ้านและคณะกรรมการ กต.ตร. สภ.หนองสองห้อง เข้า ร่วมพิธี ทั้งนี้ นายคารม คำพิทูรย์ นายอำเภอหนองสองห้อง ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดังกล่าว ณ บ้านศรีสมบูรณ์ หมู่ 7 ต.คึมชาด อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น

มอบน้ำดื่ม
นางประชิด ชินราช ประธานสตรี จ.ระยอง นายสัมฤทธิ์ ชินราช ประธานบริษัท ชินราช ซี เอ็น อาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด นายสราวุธ ชินราช ประธาน กต.ตร.สภ.ปากน้ำประแสร์ กรรมการหอการค้า จ.ระยอง พ.ต.ท.พงษ์รัก เหล่าภักดี รอง ผกก.ป.สภ.ทุ่งเบ็ญจา จ.จันทบุรี ร.ต.อ.ศิรศิทธิ์ ชมภูบุตร ได้ร่วมกันมอบน้ำดื่ม จำนวน 1,200 ขวด เพื่อนำไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแกลง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อนำไว้บริการประชาชนที่เดินทางมารับฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงนี้ และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด

แก้ไขยาเสพติด
พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง สุรชัย สุขสถาวรพันธ์ ประธาน กต.ตร.สภ.สองพี่น้อง ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง เปิดโครงการดำเนินการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร หมู่ 6 ตำบลดอนมะนาว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน ในการจัดระเบียบสังคม และลดปัญหายาเสพติด และอบายมุขต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดศรีเฉลิมเขต

เอาจริงเอาจัง
พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง ได้ พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู เปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์ชาติแบบครบวงจร ภายใต้นโยบายของตำรวจภูธรภาค 4 โดย ได้มอบหมายให้ สภ.ศรีบุญเรือง ดำเนินงาน “โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ” โดยให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งเข้าใจและรับรู้ปัญหาพิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไข และการบำบัดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของคนในหมู่บ้าน ชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานในหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

มอบแมสก์
ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เป็นประธานในพิธีมอบหน้ากากอนามัย​ จำนวน​ 55,100 ชิ้น​ ให้กับ​ หน.สภ.​หรือผู้แทนแต่ละ สภ.​ทุกแห่งในสังกัด​ เพื่อไปมอบให้กับข้าราชการตำรวจ​ และสายตรวจที่ใกล้ชิดประชาชน​ เอาไปแจกจ่ายให้กับประชาชน​ ผู้ยากไร้​ และผู้ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงหน้ากากอนามัย โดยมี พ.ต.อ.ปัญจพล​ ชำนาญหมอ รอง​ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ธานินทร์​ ฉัตรเจริญพร รอง​ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.นฤดม​ มารศรี รอง​ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.พาณุพงษ์​ ศรจิตติ ผกก.ฝอ.ภ.จว.เพชรบุรี หน.สภ.หรือผู้แทน​ สภ.ร่วมกิจกรรม​และรับมอบในครั้งนี้ ณ​ หน้าที่ทำการ ภ.จว.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 ///ภัทรพงษ์ ปานปิ่นทอง เพชรบุรี

ตรวจเยี่ยมโครงการ
ที่ สถานีตำรวจภูธรเลิงนกทา อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 เดินทางมาติดตามโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน พร้อมตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมี พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.ยโสธร นายสุพิศ สามารถ นายอำเภอเลิงนกทา พ.ต.อ.การณ์กิตตณ์ เสนาะวรานนท์ ผกก.สภ.เลิงนกทา พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอ นายกเทศมนตรีและประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับ สืบเนื่องจากสถานการณ์ยาเสพติด ได้แพร่ระบาดในชุมชนต่าง ๆ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างมาก สถานีตำรวจภูธรเลิงนกทา จึงได้ใช้โครงการดังกล่าวช่วยแก้ไขปัญหา โดยผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เบื้องต้นได้ดำเนินการใน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 3, 4, 6, 15 ต.สามแยก อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และสามารถนำมาเป็นตัวอย่างแก่ชุมชนอื่นๆ ได้


คอลัมน์      :     สน.รอตรวจ
โดย           :     บิ๊กสลีป (ทุกวันศุกร์)