ซึ่งก็มีนักโหราศาสตร์ทยอยออกมาทำนายทายทัก โดยบ้างก็ว่า…จากนี้คนเกิดราศีเมษ คนเกิดราศีพฤษภ คนเกิดราศีตุล คนเกิดราศีพิจิก ชะตาชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นในด้านนี้ด้านนั้น และบ้างก็ว่า…คนเกิดราศีมังกร คนเกิดราศีเมษ คนเกิดราศีกรกฎ คนเกิดราศีสิงห์ คนเกิดราศีกันย์ ชะตาชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นในด้านนั้นด้านนี้…
“ดาวมฤตยูย้ายราศี” กับดวงบุคคลนั่นก็ส่วนหนึ่ง
ใครมีเกณฑ์เช่นไรก็ว่ากันไปตามแต่โหรแต่ละรายชี้
และส่วนที่ “น่าจับตามาก” เช่นกันคือ “ดวงเมือง??”
ทั้งนี้ เรื่องของ “ดาวมฤตยูในทางโหราศาสตร์” โดยเฉพาะที่ “เกี่ยวกับดวงเมือง” นั้น ตลอดช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาน่าจะกล่าวได้ว่า…ทาง “เดลินิวส์” โดย “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” เป็นแหล่งแรก ๆ ที่สะท้อนข้อมูลจากทางนักโหราศาสตร์ โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2557 ก่อนจะเกิด “รัฐประหาร” รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันที่ 22 พ.ค. 2557 โดยหัวหน้าคณะรัฐประหารคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งข้อมูลที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” สะท้อนไว้ เป็นข้อมูลจาก อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และล่วงเลยมาถึงตอนนี้…เรื่องของ “ดาวมฤตยู” ในทางโหราศาสตร์ ดูแค่ในส่วนที่เป็น “ข้อมูลจำเพาะของดาวมฤตยูในทางโหร” ยังไม่ต้องลงลึกถึงคำทำนายเจาะจง ก็ “น่าคิดไม่น้อย” แล้ว…
พลิกแฟ้มดูข้อมูลจำเพาะ “ดาวมฤตยู” ในทางโหราศาสตร์ ทาง อ.ภิญโญ ได้ให้ข้อมูลไว้โดยสังเขปมีว่า… ดวงดาวบนท้องฟ้ามีการโคจรเปลี่ยนรูป เข้ารูป ไม่รู้จักสิ้นสุด ซึ่งสำหรับ “ดาวมฤตยู” ที่เลขในทางโหรคือ “0” นั้น…ถือว่าเป็น “ดาวแห่งการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งในทางโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูนี่ อัตราการโคจร 1 ราศีใช้เวลาประมาณ 7 ปี โคจร 12 ราศีก็ใช้เวลาประมาณ 84 ปี โดยโหราศาสตร์จัดให้มฤตยูครอบคลุมธาตุว่างหรืออากาศธาตุ
“มฤตยู” ในทางโหราศาสตร์ “จัดเป็นดาวที่ลึกลับ” เป็นดาวที่ “บันดาลให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่คาดฝัน!!” ขณะเดียวกัน ดาวมฤตยูก็ยัง ยึดโยงเกี่ยวกับเรื่องเทวดาอารักษ์ ภูตผีปิศาจ ไสยศาสตร์ เวทมนตร์ และที่สำคัญในทางร้าย ๆ ก็คือ “เป็นเจ้าแห่งอาเพศและภัยทั้งหลาย” จึงมีคำจำกัดความว่า “ดูภัยอาเพศให้ดูมฤตยู”
นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติสะท้อน “ข้อมูลจำเพาะของดาวมฤตยูในทางโหร” ผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้อีกว่า… เนื่องจากดาวมฤตยูนั้นในด้านหนึ่ง “เป็นเจ้าแห่งความลึกลับ” จึงมีการจัดให้คู่กันกับ “ดาวเกตุ” ที่ “เป็นเจ้าแห่งความยุ่ง” ซึ่ง… ดาวเกตุมีลักษณะยุ่ง เมื่อไปสถิตเรือนชะตาใดก็ทำให้ชะตานั้นวุ่นวายขึ้น วุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น ขณะที่… มฤตยู เจ้าแห่งความลึกลับ เมื่อไปสถิตอยู่ในเรือนใดของดวงชะตาก็จะทำให้เรือนนั้นลึกลับ ไปด้วย
“มฤตยู ถ้ากุมลัคนาหรือสัมพันธ์ลัคนา มีความหมายเรื่องภัย อาเพศ มีสิ่งที่ทำให้หวาดเสียวอยู่เรื่อย ๆ ทำให้เกิดความเสียหาย มีสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน มักพบความลึกลับซับซ้อนเสมอ ๆ” …อ.ภิญโญ ระบุไว้
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ก.ค. 2565 มีสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.บางราย ระบุไว้ถึง “ดาวมฤตยู” ในทางโหราศาสตร์ และ ยึดโยงกับเรื่อง
บ้านเมือง-เรื่องการเมือง ประมาณว่า… มฤตยูย้ายวันที่ 7 ก.ค.นี้…ยังไง ๆ รัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ครบวาระ… และเมื่อ7 ก.ค. ทาง ส.ว. รายเดียวกันนี้ก็ยังได้ระบุถึงดาวมฤตยูที่ยึดโยงกับเรื่องบ้านเมือง-เรื่องการเมืองไว้อีก ประมาณว่า…ดาวมฤตยูย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ…เริ่มสะเทือนเลือนลั่น… โดยระบุยึดโยงไปถึงกรณีการลงมติในรัฐสภาเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เกี่ยวกับวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบ “500 หาร”
กับประเด็นที่มีการระบุนี้จะเป็นเช่นไรต่อไป?? ก็ต้องรอดู… อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติได้เคยสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงกรณี “ดาวมฤตยูกับหลักโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมือง” ไว้ด้วยว่า… ในอีกด้านหนึ่ง มฤตยูมีส่วนคุ้มครองสภานคร
สภาท้องถิ่น องค์การ สมาคม สโมสรต่าง ๆ บุคคลผู้มีอาชีพวิสามัญต่าง ๆ นักวิชาการในสาขาต่าง ๆ และอีกนัย… “ดาวมฤตยู” คือ “ตัวแทนของประชาชน” หรือ “ผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ”
และสำหรับนัยนี้ของมฤตยู ก็จะ… แสดงถึงการเป็นผู้มีอำนาจในการบัญญัติกฎหมายอันเป็นที่รวมแห่งอำนาจทั้งหมด หรือการเป็นตัวแทนที่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือระงับยับยั้งการบัญญัติกฎหมายได้ หรือการใช้อำนาจบริหาร ไม่ว่าจะเป็นโดยทางการเมืองหรือมิใช่ …ซึ่งนัยนี้จะโยงกรณี “500 หาร” หรือไม่?? ก็ไม่ทราบได้…
ที่ทราบก็คือ… “อิทธิพลปรากฏการณ์ดาวมฤตยูตามหลักโหร” ซึ่งทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ สะท้อนเพิ่มไว้ว่า… “สิ่งที่ควรระวังคือ…การเกิดภัย ภัยอาเพศ” ระวังภัยทางอากาศ-อากาศยาน วาตภัย และอุทกภัยที่รุนแรงที่สุด รวมทั้งธรณีพิบัติภัย ภูเขาไฟระเบิด และ… แม้ว่าอีกส่วนหนึ่งนั้นมฤตยูจะให้ความหมายด้านความเจริญก้าวหน้า การฝ่าฟันอุปสรรค เสรีภาพ แต่กระนั้น…ที่มักจะนำมาด้วยก็คือ… “นำมาซึ่งความหวาดเสียวและภัยอาเพศสู่บ้านเมือง!!”
“ดาวมฤตยูย้ายราศี” 7 ก.ค.ที่ผ่านมา…ก็หวังว่า…
อิทธิพลนั้น “จะนำมาแค่ความหวาดเสียว??”…
หวังว่า…“จะไม่ถึงขั้นนำมาซึ่งภัยอาเพศ??”.
