วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมการเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite : SAT 1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) และร่วมนั่งรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ ที่จะให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารฟรีระหว่างอาคาร SAT-1 และอาคารผู้โดยสารหลัก(MTB) ทสภ. ….ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำรถไฟฟ้าไร้คนขับมาให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน

อาคาร SAT1 มีพื้นที่ใช้สอยรวม 2.16 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) สูง 4 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น B2 รถไฟฟ้า APM ชั้น B1 งานระบบ ชั้น G ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ชั้น 2 ผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 3 ผู้โดยสารขาออก และชั้น 4 ร้านค้า ร้านอาหาร มีประตูทางออกเชื่อมต่อกับหลุมจอดประชิดอาคาร(Contact Gate) 28 หลุมจอดอากาศยาน รองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนต่อปี ช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคนต่อปี และรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 60-63 เที่ยวบินต่อชม. เป็น 68 เที่ยวบินต่อชม.

บอร์ด ทอท.เคาะ “กีรติ กิจมานะวัฒน์” นั่งแท่นเอ็มดีตามคาด

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. บอกว่า ขณะนี้อาคาร SAT-1 พร้อมให้บริการผู้โดยสารแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการ(Soft opening) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2566 โดยจะทดลองให้บริการบางเที่ยวบินก่อน โดยเฉพาะเที่ยวบินที่จอดทสภ. นานเกิน 5 ชั่วโมง เพื่อทดสอบความพร้อมก่อนเปิดบริการอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ (Full opening) ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมาได้ทดสอบระบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องร่วมกับสายการบิน และผู้ประกอบการภาคพื้น โดยจะทดสอบต่อไปจนกระทั่งเปิดบริการ

สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคาร SAT-1 จะมีทั้งร้านอาหาร ห้องรับรองและร้านค้าต่างๆ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และตกแต่งให้สมบูรณ์ โดยจะแล้วเสร็จทันและพร้อมให้บริการในวันเปิดบริการอาคารSAT-1

อาคาร SAT-1 ออกแบบโดยต่อยอดสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมให้กลมกลืนกับอาคารเทียบเครื่องบินเดิม หลังคาตรงกลางของอาคารถูกยกให้สูงขึ้นกว่าส่วนอื่นๆ เลียนแบบการไล่ระดับหลังคาเป็นชั้นๆ ในสถาปัตยกรรมไทย ภายในอาคารได้ตกแต่งอย่างงดงาม ทรงคุณค่า ทันสมัย โอ่โถง ไม่อึดอัด มีเอกลักษณ์ สร้างความจดจำ และเป็นที่ประทับใจของนักเดินทาง โดยติดตั้งปะติมากรรมช้างเผือก “คชสาร” ขนาด 7 เมตร และ 5 เมตร ไว้บริเวณโถงกลาง ชั้น 3 ถือเป็นประติมากรรมชิ้นเดียวในโลก ซึ่งขึ้นรูปงานในลักษณะการสานวัสดุสแตนเลสด้วยมือ สะท้อนรูปแบบหัตถศิลปะงานสานแบบพื้นบ้านของไทยอย่างสวยงามเป็นจุดหมายตาแรกของอาคาร

ขณะที่ห้องน้ำบริเวณชั้น 2 และ 3 ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย และประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก อีกทั้งได้นำเอกลักษณ์ หรือลักษณะเด่นแต่ละภาค และประเพณีวัฒนธรรม เช่น ลอยกระทง และมวยไทย มาใช้เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของพื้นที่ ช่วยให้ผู้โดยสารจดจำพื้นที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังตกแต่งสวนบริเวณชั้น 2 และ 3 เป็นสวนแนวตั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วย

นับเป็นอาคารที่ผสมผสานความทันสมัย และมีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นไทยสอดแทรกในบริเวณต่างๆ ของอาคาร มีความสวยงาม ประณีต สะท้อนมรดกวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทยในแต่ละภูมิภาค พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คำนึงถึงการใช้งานของทุกเพศทุกวันอย่างเท่าเทียมกันด้วยการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) เช่น ห้องนั่งสมาธิ ห้องละหมาดที่แยกระหว่างหญิงชาย ห้องแม่และเด็ก (Babycare Room) รวมทั้งมีห้องและพื้นที่สำหรับเด็กเล่น เก้าอี้พักคอยที่ติดตั้งที่ชาร์จ พร้อมอุปกรณ์เสริมเต้ารับไฟฟ้าช่องเสียบ USB แบบ Universal เป็นต้น

นายกีรติ แจกแจงด้วยว่า อาคาร SAT1 อยู่ในเขตพื้นที่การบิน (Airside) จะให้บริการผู้โดยสารขาออกที่เช็กอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระที่อาคารผู้โดยสารหลักแล้ว จากนั้นผู้โดยสารจะเดินเข้าไปในเขต Airside ตรงไปยังด้านหลังเกษียรสมุทร บริเวณชั้น 4 Concourse D เพื่อลงไปยังสถานีรถไฟฟ้า APM และนั่งรถไฟฟ้า APM มายังอาคาร SAT 1 ส่วนผู้โดยสารขาเข้า เมื่อลงเครื่องบินที่ SAT1 ต้องลงไปยังชั้นใต้ดิน B2 เพื่อนั่งรถไฟฟ้า APM ผ่านอุโมงค์เชื่อมมายังอาคารผู้โดยสารหลักไปยังห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าและจุดรับกระเป๋าสัมภาระต่อไป

ส่วนรถไฟฟ้า APM เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับล้อยาง รุ่น Airval ขนส่งมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถึง ทสภ. ครบแล้ว 6 ขบวน 12 ตู้ 1 ขบวน มี 2 ตู้ ขนส่งผู้โดยสารได้มากถึง 210 คนต่อขบวน หรือประมาณ 6,000 คนต่อชม. เบื้องต้นจะนำขบวนรถวิ่ให้บริการ

พร้อมกันครั้งละ 2-3 ขบวนต่อเส้นทาง ส่วนอีก 1 ขบวนเก็บไว้ใช้สำรอง การเดินรถภายในอุโมงค์มี 4 ทางวิ่ง แบ่งเป็น สายสีแดง และสายสีเขียว สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและออก ให้บริการทุกวัน 24 ชม. มี 2 สถานี ได้แก่ สถานีอาคาร SAT 1 และสถานีอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน

สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมปล่อยยานลูกให้บริการอาคารSAT1 พร้อมรถไฟฟ้า APM ด้วยความเร็วประมาณ 50-55 กม.ต่อชม.(ความเร็วเดินรถสูงสุดอยู่ที่ 80 กม.ต่อชม. ) ระยะทางต่อเที่ยวประมาณ 1 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีอดใจรอ!!!

…ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์…