ตอนผมเป็นนักข่าวใหม่ ๆ มีเหตุการณ์ “ไฟใต้” ครั้งใหญ่ให้จดจำถึงทุกวันนี้ นั่นคือกลุ่มคนร้ายลอบเผาโรงเรียนใน จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ช่วงเวลา 01.45 น. วันที่ 1 ส.ค. 36  ทำให้โรงเรียนเสียหาย 36 แห่ง ภายในคืนเดียว

จากหลักฐานที่รวบรวมไว้ได้หลังเกิดเหตุ พบว่าคนร้ายมีแผนลอบวางเพลิงโรงเรียนกว่า 50 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าว แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาและกำลังพล จึงก่อเหตุได้เพียง 36 แห่ง ในยุครัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน1) ที่มีนายสัมพันธ์ ทองสมัคร จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ และ พล..วิมล วงศ์วานิช เป็น ผบ.ทบ.

ปัจจุบัน “ไฟใต้” ยังไม่สงบก็จริง! เพราะยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้นบ้างประปราย แต่สถานการณ์ในภาพรวมก็ดีขึ้นกว่าในอดีตเยอะ! โดยมีสิ่งยืนยันจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ว่าเท่าที่สอบถามหัวหน้าคณะพูดคุยเรื่องสันติภาพและสันติสุขในช่วงรัฐบาลชุดนี้ มีความก้าวหน้ามากที่สุดแล้ว

ยิ่งชัดเจนมากขึ้นตอนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางไปตรวจเยี่ยมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายเศรษฐาลงไปเยี่ยม ไปกินนอน ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบบเน้นอัตลักษณ์ เน้นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ด้วยรอยยิ้ม รวมทั้งการแต่งกาย เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม แบบสบายๆ ใส่เสื้อลวดลาย สีสันของแต่ละจังหวัด ไม่ต้องใส่เสื้อเกราะ ไม่ต้องทำหน้าตาเคร่งเครียด ขึงขัง ไม่ต้องมีบอดี้การ์ดเกะกะมากมาย 

ส่วนพี่น้องประชาชนสามารถเข้าใกล้นายกฯ ได้ด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเองมากที่สุด ถ้านับตั้งแต่เหตุการณ์เผาโรงเรียนเมื่อปี 36

นี่คือภาพความกลมเกลียวสมานฉันท์ซึ่งเป็นธรรมชาติที่สุด และไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างประชาชน 3 จังหวัดกับผู้นำประเทศ แต่บรรยากาศของรอยยิ้มความเป็นกันเองไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เกิดขึ้นแล้วในรัฐบาลนี้

นอกจากนายเศรษฐาจะลงพื้นที่ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ด้วยรอยยิ้มแล้ว แกยังดึงสถานที่สำคัญๆ และของดีในแต่ละจังหวัดออกมาให้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน เจริญตาอีกด้วย

โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าขาย การลงทุน และการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในเรื่องฐานะ รายได้ และสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน 3 จังหวัดให้ดีขึ้น

ไล่เรียงตั้งแต่ไปสักการะศาลหลักเมืองปัตตานี เยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะ ชมตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้านปัตตานี แวะชิมขนมหวานมะพร้าวอ่อน ขนมลาดู ขนมเวาะฮูลูบือรัส และขนมท้องถิ่นอีกเพียบ ไปดูบ้านขุนพิทักษ์รายา ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี กราบไหว้หลวงปู่ทวด นมัสการเจ้าอาวาสวัดช้างให้ วัดคู่เมืองปัตตานี

ไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา เยี่ยมชม TK Park Yala ซึ่งเป็นอุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทย ชมสวนหมื่นบุปผา สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ที่อ.เบตง วิธีการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) บนภูเขา ตรวจด่านศุลกากรเบตง และท่องราตรีเบตง ซึ่งกำลังมีงานไหว้เจ้าของศาลเจ้าวัดกวนอิม (งานประจำปี)

ส่วนที่นราธิวาส นายกฯเข้าสักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวนราธิวาส เข้ากราบพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ชมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากหญ้าแฝก (ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ชมบูธนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต คือ ทุเรียนกวนหนึบ (วิสาหกิจชุมชนทุเรียนกวนบูโดเรี่ยน) ปลากุเลาตากใบ (กุเลาทองแม่แป้น) ข้าวหอมกระดังงา (ข้าวหอมกระดังงาบ้านโคกงู) และชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้ คัมภีร์อัล-กุรอาน

ปัญหาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะจบลงด้วยรอยยิ้ม หลังจากนายกฯเศรษฐาลงไปงัดเอาของดีๆ 3 จังหวัด ออกมาโชว์คนไทยในประเทศ และอวดสายตาชาวโลก ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจะฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อกลบเสียงปืน!!.

……………………….
พยัคฆ์น้อย