ข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ณ วันที่ 30 ก.ย.67 เกี่ยวกับสัดส่วนการใช้ “เชื้อเพลิง” เพื่อผลิต“ไฟฟ้า” ในระบบของ กฟผ. สะสมที่ 169,011.09 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
มาจากก๊าซธรรมชาติ 62.45% (105,541.98 ล้านกิโลวัตต์–ชั่วโมง) รองลงมาคือ ถ่านหิน (รวมลิกไนต์) 19.08% (32,242.31 ล้านกิโลวัตต์–ชั่วโมง) ที่เหลือเป็นพลังงานหมุนเวียน (พลังน้ำ, อื่น ๆ) 17.35% น้ำมันดีเซล 0.02%, น้ำมันเตา 0.17%, อื่น ๆ (สปป.ลาว, มาเลเซีย, ลำตะคองชลภาวัฒนา) 0.93%
“พยัคฆ์น้อย” อธิบายมาตลอดว่าไฟฟ้าที่เราใช้ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า โดยแหล่งก๊าซฯ ใหญ่ที่สุดคือในอ่าวไทยที่ขุดกันมากว่า 30 ปี จึงลดน้อยลงเรื่อย ๆ
ก๊าซฯอ่าวไทยเป็น “ก๊าซเปียก” มีคุณภาพดีกว่าก๊าซฯที่ซื้อจากเมียนมา ซึ่งเป็น “ก๊าซแห้ง” นำมาเผาเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างเดียว แต่ก๊าซเปียกขุดขึ้นมาเข้า “โรงแยกก๊าซ” ก่อนส่งให้โรงผลิตไฟฟ้า และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่มีมูลค่าในระบบเศรษฐกิจปีละเป็นแสน ๆ ล้านบาท
ปัจจุบัน “ปตท.” มีโรงแยกก๊าซ 7 โรง! ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่กว่า 50% ส่วนผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2-10 ไม่มีครอบครัว “ชินวัตร” เหมือนที่ “เฟคนิวส์” ปั่นกันเมื่อ 10 ปีก่อน
อนาคตค่าไฟฟ้ายังผูกติดกับราคาก๊าซฯ ถ้าก๊าซฯอ่าวไทยไม่พอ ก็ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ถ้าราคาผันผวนสูง! กฟผ.ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินให้มากขึ้น เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
นี่แหละ! รัฐบาลจึงต้องหาแหล่งก๊าซฯแห่งใหม่ มาทดแทนแหล่งก๊าซฯในอ่าวไทย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต นั่นคือแหล่งก๊าซฯในพื้นที่ทับซ้อนในทะเลไทย–กัมพูชา ซึ่งผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกบอกกับ “พยัคฆ์น้อย” ว่าแหล่งก๊าซฯพื้นที่ทับซ้อน เหมือน “ภาพสะท้อนกระจก” กับแหล่งก๊าซฯในอ่าวไทย คือมีปริมาณใกล้เคียง หรืออาจจะมากกว่าในอ่าวไทยด้วยซ้ำไป
ผมเกิดไม่ทันจริง ๆ ว่าไทยเสียดินแดนเมื่อไหร่-กี่ครั้ง! จึงหาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ระบุว่าไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง โดยครั้งหลังสุด! เสีย “เขาพระวิหาร” ให้กัมพูชา ตามคำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี 2505
หลังจากนั้นไม่ปรากฏว่าเสียดินแดนให้ใคร! การขุดก๊าซฯ แบ่งครึ่งกับมาเลเซียก็ไม่เสียดินแดน! จะมีเสียดินแดนบ้าง! เพราะน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งจังหวัดต่าง ๆ ทุกปี! จนแผ่นดินหายไปแล้วกว่า 1 แสนไร่
ปลายปี 53 คนไทยกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งสส.ประชาธิปัตย์ในตอนนั้น ถูกทหารกัมพูชาจับกุมบริเวณชายแดน จ.สระแก้ว ขณะเดินเข้าไปสำรวจหลักเขตแดน จึงติดคุกเขมรกันอยู่พักใหญ่! ติดคุกฟรี! เพราะหลักเขตแดนยังอยู่ที่เดิม รวมทั้งรั้วชั่วคราว (ลวดหนาม) ก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนทำให้ไทยได้ดินแดนเพิ่มเข้ามา
ลามมาถึงการฟื้นฝอยหาตะเข็บกรณี “เขาพระวิหาร” คลั่งปั่นเฟคนิวส์ในยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” สุดท้ายเสียเวลาเปล่า! เขาพระวิหารยังมีสถานะทาง “กรรมสิทธิ์” เหมือนเดิมเมื่อปี 2505
ปี 67 ปั่นเฟคนิวส์ เซฟ! อ.เกาะกูด จ.ตราด ไม่เอาก๊าซฯ แต่อนาคตถ้าค่าไฟแพงอย่าบ่นนะ!!.
……………………………………….
พยัคฆ์น้อย
