ผ่านไปแล้ว 5 งวดสำหรับการเปิดขายสลากเลขสามหลัก หรือหวยเอ็น3 ซึ่งต้องบอกว่าปังน้อยกว่าที่คาดพอสมควร จนมีข่าวว่า จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อาจพิจารณายกเลิกทำ หากเห็นแล้วว่า หวยเอ็น3 ทำออกมาแล้วไม่ได้ประโยชน์ ทำให้ผู้ค้าเดิมเดือดร้อน แถมแก้ปัญหาสลากเกินราคา หรือสู้กับหวยใต้ดินไม่ได้ด้วย

ยอดขายลดลงต่อเนื่อง

หากหยิบยกสถิติขายหวยเอ็น3 ย้อนหลังที่ออกมาแล้ว 4 งวด ต้องบอกว่า สาละวันเตี้ยลงเกินคาดไว้ โดยแรกเริ่มเดิมที สำนักงานสลากฯ ตั้งเป้าเพดานไว้ 5 ล้านใบ แต่งวดแรกกลับขายได้เพียง 1.8 ล้านใบเท่านั้น มีประชาชนเข้ามาซื้อ 8.3 หมื่นราย แต่พอมางวดสอง สลากเอ็น3 ขายได้เพียง 1.33 ล้านใบ  งวด 1 ธ.ค.แม้เป็นสลากสัญจรแต่ก็ขายลดลงอีกเหลือ 1.17 ล้านใบ และงวดล่าสุด 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ขายได้แค่ 1 ล้านใบเท่านั้น 

แม้งวดเดือน ธ.ค. สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มจุดจำหน่ายมาสลากเอ็น3 จาก 647 จุดเป็น  827 จุด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมาเท่าไรนัก จนล่าสุดต้องลดเพดานจำหน่ายหวยเอ็น3 จาก 5 ล้านใบ เหลือเพียง 2 ล้านใบต่องวดเท่านั้น หลังจากที่ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่องแบบมีนัยสำคัญ 

จุดจำหน่ายน้อย

เมื่อคิด วิเคราะห์ แยกแยะ สาเหตุที่ทำให้หวยเอ็นขายไม่ดี  เหมือนกับหวยบนดิน หรือหวย ตัว ตัวในอดีตไม่ได้นั้น ก็มาจากหลายสาเหตุ สาเหตุแรกมาจากจุดจำหน่ายที่มีน้อย เพราะในช่วงทดสอบจำหน่ายผ่านแซนด์บ็อกซ์ สำนักงานสลากฯ นั้นเป็นคนทดลองขายสลากเอ็น3 เอง โดยไปฝากขายผ่านร้านสลาก 80 ซึ่งมีเพียง 800 กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือว่ามีจำนวนน้อย และทำให้คนที่อยากซื้อส่วนใหญ่เข้าถึงได้ยาก

ยกตัวอย่างเช่น พอใครฝันอยากซื้อเลขนี้ จะต้องเดินทางไปหาร้านขาย ซึ่งบางคนไกลนับเป็น 10 กม. ก็ไม่ไหวจริง ๆ จึงไม่ได้ซื้อ หันไปซื้อหวยใต้ดินที่สะดวกกว่าแทน เพียงโทรฯ กริ๊งเดียวก็ซื้อได้แล้ว อีกทั้งตัวคนขายเอง คือร้านสลาก 80 ก็ไม่มีแรงกระตุ้นอะไรที่อยากจะเพิ่มยอดขายด้วย เพราะขายมากหรือน้อยก็ไม่มีรายได้อะไรเพิ่มขึ้นมา

เงินรางวัลไม่เร้าใจ

ประเด็นต่อมา…อย่างที่ทราบว่า สลากเอ็น3 มีเงื่อนไขการเล่น และคิดเงินรางวัลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ซื้อยังไม่เข้าใจอยู่มาก โดยเฉพาะเงินรางวัลที่มีการคิดคำนวณแบบสลากกินแบ่ง ไม่ได้กินรวบแบบหวยใต้ดิน ที่หวยใต้ดินจะมีการกำหนดจ่ายรางวัลชัดเจนบาทละ 60 บาท บาทละ 600 บาท แต่ขณะที่วิธีของหวยเอ็น3 จะต้องคิดหลายต่อ เริ่มจากนำเงิน 60% ของยอดขายทั้งหมดแต่ละงวดมาจัดสรรเป็นรางวัล และหารเฉลี่ยให้กับคนที่ถูกรางวัล ตามกฎหมาย พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ดังนั้น เงินรางวัลแต่ละงวดจะไม่แน่ชัด และผันแปรไปตลอด ที่สำคัญ!! เงินรางวัลที่หารเฉลี่ยออกมาก็ค่อนข้างน้อยไม่ดึงดูดใจ เช่น รางวัล 3 ตัวตรง ที่ผ่านมาออก 843 รับไป 5,249 บาท คิดเฉลี่ยราคาหวยใบละ 20 บาท จะได้รางวัลบาทละ 262 บาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับหวยใต้ดินที่จ่ายบาทละ 500-600 บาทเป็นอย่างต่ำ ก็ถือว่าน้อยกว่ามาก  และหากเป็นเลขดังได้ความนิยม ตัวหารก็ยิ่งเยอะขึ้น บางครั้งได้เงินเพียงแค่ 200-300 บาท หรือตกเฉลี่ยบาทละ 10 บาทก็มี เทียบกันแล้วสู้รางวัลหวยใต้ดินไม่ได้ 

เงินเชื่อไม่เบื่อทวง

ปัญหาอีกเรื่อง คือ ข้อจำกัดในการซื้อ เนื่องจากสลากเอ็น3 มีการบังคับให้ซื้อผ่านให้ช่องทางที่กำหนด คือ ต้องเดินทางไปซื้อด้วยตัวเองผ่านร้านสลาก 80 และจ่ายเงินสดก่อนแทงทุก ๆ ครั้ง ทำให้คนไม่คุ้นชิน เมื่อเทียบกับหวยใต้ดินที่มีวิธีการซื้อสะดวกกว่าเช่น สามารถเลือกซื้อได้ง่ายโทรฯ ไปหาเจ้ามือ หรือส่งข้อความไลน์ก็ซื้อกันได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ที่สำคัญหวยใต้ดินยังมีระบบเงินเชื่อ สามารถแทงก่อนจ่ายทีหลัง ได้เครดิตนานถึง 15 วันถึงค่อยมาเคลียร์ หรือจะทยอยผ่อนก็ยังไหว อีกทั้งเจ้ามือบางรายยังมีโปรโมชัน มอบส่วนลดพิเศษให้อีก ทำให้หวยใต้ดินที่มีมูลค่า 2 แสนล้านบาท ไม่ระคายผิวแต่อย่างใด และยังได้รับความนิยมต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

หวยใบขาดทุนยับ

อีกประการสำคัญ สำหรับหวยเอ็น3 ที่นอกจากจะสู้หวยใต้ดินไม่ได้แล้ว ในทางกลับกันกลับส่งผลกระทบต่อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายด้วยกันแทน โดยเฉพาะลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด เหลือค้างแผงจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นแบบใบหรือดิจิทัล ส่งผลให้คนขายสลากถูกกฎหมาย เริ่มเจ็บตัวขายไม่หมดมาแล้วหลายงวด  แม้จะพิสูจน์ไม่ได้เต็มร้อยว่า สาเหตุที่สลากขายไม่หมดหลายงวด มาจากสลากเอ็น3 แต่เมื่อหยิบข้อมูลยอดขายมาเทียบเคียงดูแล้ว ต้องบอกว่าเป็นสาเหตุที่พออนุมานเชื่อมโยงได้พอสมควร เพราะในแง่ของสลากใบราคาทรุดตัวลงต่อเนื่อง จากสมัยก่อนยุครุ่งเรืองเคยมียี่ปั๊วคนกลางเก็งกำไรขายถึง 90-95 บาท นำไปขายปลีกได้ใบละ 110-120 บาท แต่มา 2-3 งวดหลังมานี้ ราคาสลากก็ลดเหลือแค่ 82-85 บาท 

ดิจิทัลค้างเกือบล้านใบ

มิหนำซ้ำยังขายไม่หมดแทบทุกงวด ทั้งที่ปกติในช่วงปลายปีจะเป็นไฮซีซันที่สลากขายดี และที่น่าห่วงคือช่วงปลายงวดคนขายรายย่อยต้องมาเลหลังขายขาดทุนกันมาก เพราะหวยติดแผงขายไม่ออก อย่างงวดเมื่อ 16 .. 67 ที่ผ่านมา มีการเลหลังถูกสุดประวัติการณ์ 2 ใบร้อย จนผู้ค้าสลากรายย่อยหลายรายเริ่มถอดใจ อยากเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น หากวงการหวยยังตกต่ำแบบนี้  

ข้ามไปที่สลากดิจิทัล ใบ 80 บาท ก็น่าห่วงไม่แพ้กัน จากเดิมที่เคยขายดี ขายหมดทุกงวด จนคนขายยิ้มแป้นรับทรัพย์มาตลอด แต่ในช่วง 3-4 งวดหลังมานี้ ต้องกลายเป็นเสือลำบาก ขายไม่หมดเข้าเนื้อไปไม่น้อย อย่างงวด 16 พ.ย. ขายไม่หมดเหลือ 9 แสนกว่าใบ งวด 1 ธ.ค. แม้จะกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังเหลือ 1.5 แสนใบ แต่พอมาล่าสุดงวด 16 ธ.ค. กลับทรุดตัวลงอีก เหลือ 3.4 แสนใบ เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน และผิดวิสัยหวยไทย

สลากเอ็น3จริงใจไหม

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับหวยเอ็น3  ก็ต้องให้เวลาสำนักงานสลากฯ ในการทดลองขายด้วย เพราะอย่างแรกสลากเอ็น3 เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้การซื้อขายในช่วงต้นต้องใช้เวลาให้คนซื้อคนขายเรียนรู้ทำความเข้าใจก่อน และที่สำคัญสำนักงานสลากฯ ได้ตั้งเป้าหมายประเมินผลถึง 12 งวดหรือประมาณ 6 เดือน แต่วันนี้เพิ่งผ่านไป 5 งวดเท่านั้น จะมาพิพากษาตัดสินก็มองว่าใจร้ายเกินไป  ขณะเดียวกันระหว่างทดลองสำนักงานสลากฯ ก็ควรเรียนรู้ปัญหาเพื่อนำมาปรับปรุงไปด้วยว่า สลากใบหรือสลากดิจิทัลขายไม่หมดเพราะอะไร มีอุปสรรคตรงไหน มาจากสลากเอ็น3 อย่างเดียวหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจซบเซา คนไม่มีกำลังซื้อ หรือมาจากน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทำให้ยอดขายตก เรื่องนี้ตรงนี้จะต้องทำการวิเคราะห์ให้ได้คำตอบที่ชัดเจน

ลุ้นหาทางสู้ใต้ดิน

ส่วนประเด็นที่ดูว่า สลากเอ็น3 จะสู้หวยใต้ดินได้หรือไม่นั้น  ก็ต้องให้เวลาพิสูจน์เช่นกัน เพราะขณะนี้หวยเอ็น3 ยังเดินได้ไม่เต็มระบบ แต่ต่อไปหากเปิดขายเต็มตัว ให้รายย่อยทั่วไปเดินหาลูกค้าได้ จุดอ่อนด้านต่าง ๆ น่าจะลดน้อยถอยลง ไม่ว่าจะเป็นจุดจำหน่ายที่มีไม่เพียงพอ เพราะเมื่อสำนักงานสลากฯ เปิดขายเต็มตัวและรับสมัครให้รายย่อยมาเดินขายแบบเต็มตัวแล้ว จะมีคนขายเพิ่มอีกหลายพันคน ซึ่งจะสามารถเดินเร่ขาย เพิ่มความสะดวกให้คนซื้อได้ดีกว่าเดิม

ส่วนจุดอ่อนเรื่องเงินรางวัลน้อยไม่จูงใจนั้น ก็มองว่าในอนาคตหากมียอดขายสลากเอ็น3 เพิ่มมากขึ้น จำนวนเงินรางวัลก็จะผันแปรและจ่ายเพิ่มตาม เช่น ขายได้ 20 ล้านบาท กับ 200 ล้านบาท เงินรางวัลที่จะนำมาแชร์แบ่ง ก็มีจำนวนต่างกันชัด  ดังนั้นในอนาคตหากมีการทำตลาดเปิดขายได้ดี เงินรางวัลก็จะสูงขึ้นตาม และมีแจ๊กพอตให้ลุ้นเยอะขึ้นตามไปด้วย

เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ส่วนคำถามที่ว่า หวยเอ็น3 สมควรจะได้เดินต่อ หรือพอแค่นี้นั้น คงต้องให้เวลากันอีกสักระยะ เพราะขณะนี้ก็อยู่ในช่วงทดสอบ แต่ขณะเดียวกันระหว่างนี้ สำนักงานสลากฯ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรจะหาวิธีปรับปรุงเอ็น3 ตลอดเวลา เพื่อให้เอ็น3 ซึมซับเข้าไปอยู่ในใจประชาชนมากขึ้น เช่น ควรปรับให้ขายผ่านแอปเป๋าตัง ตามคำเรียกร้องของประชาชนได้ไหม หรือการเปิดรับสมัครคนขายแบบโอเพน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขายมากที่สุด เพราะถ้าหากปล่อยให้ขายน้อยไปเรื่อย ๆ แบบนี้ มันจะเป็นภาพจำที่ไม่ดีต่อประชาชนว่า หวยเอ็น3 เล่นไปทำไม เงินรางวัลก็น้อยสู้หวยใต้ดินไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น อนาคตของหวยเอ็น3 ก็ดูแล้วจะแข่งกับหวยใต้ดิน หรือหวยบนดินแบบในอดีตไม่ได้แน่ 

ดังนั้น ท้ายที่สุดการมาของสลากเอ็น3 จึงทำให้เกิดคำถามว่า ออกมาแล้วดีจริงไหม ตอบโจทย์เป้าหมายที่ต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคา หรือสู้กับหวยใต้ดินได้จริงหรือเปล่า หรือเอ็น3 ทำออกมาแล้ว จะมาแย่งตลาดสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยกันเอง เป็นเรื่องที่สำนักงานสลากฯ จะต้องหาคำตอบให้ได้โดยเร็ว ก่อนเริ่มขายจริงในเดือน เม.ย. 68!!.