ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน!! คนเรามีพบก็ต้องมีจาก ไม่จากเป็นก็จากตาย เมื่อพบกัน รักกัน ร่วมกันทำแต่สิ่งดีงาม คนที่ยังอยู่ก็ต้องสู้ต่อไป ช่วงเวลาดีๆ ที่มีให้กัน จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป..
ว่าที่เจ้าสาวน้ำตานองร่ำไห้แทบขาดใจ เมื่อรู้ว่า “ครูเดียวดาย” นายชานนท์ ใสจูง อายุ 33 ปี หนุ่มคนรักมาด่วนจากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยที่ทั้งสองได้เคยทำพิธีหมั้นหมายกันแล้ว เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 68 ต้นปีที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาที่จะรักและดูแลกันตลอดไป และครูเดียวดายเคยพูดว่า “จะจัดงานแต่งตัวเองในวัดข้างเมรุ” ด้วยท่าทีที่เป็นคนอัธยาศัยดีและชอบพูดติดตลก จึงไม่มีใครเคยคาดคิดว่า สิ่งที่พูดจะเป็นลางและมาเกิดเรื่องเศร้าสลดขึ้น จนยากที่คนรักและญาติพี่น้อง ตลอดทั้งเพื่อนสนิทคนที่รู้จักคุ้นเคยจะทำใจได้

วันที่ 18 มี.ค. จึงได้เกิดพิธีวิวาห์ระหว่างเจ้าสาวและครูเดียวดาย ผู้วายชนม์ขึ้น โดยงานดังกล่าว จัดขึ้นในงานศพที่บ้านของครูเดียวดาย ที่บ้านเลขที่ 12/1 บ้านวังผือ หมู่ 4 ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น เจ้าสาวอยู่ในชุดสีขาวสวยสะพรั่ง แต่แววตาเปี่ยมไปด้วยความเศร้า ถือรูปเจ้าบ่าวอยู่ข้างโลงศพ พ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย ต่างร่วมพิธีผูกข้อมือแต่งงาน เปิดเพลงพื้นบ้านที่เจ้าบ่าวเคยแต่งและบรรเลงทำนองร่วมกับเพื่อน บรรยากาศในงานมีทั้งความสุขปนความเศร้า ที่ได้สานฝันให้กับเจ้าบ่าวที่หมดลมหายใจแล้ว

สำหรับ “ครูเดียวดาย” นั้น เป็นที่รักของครอบครัวและคนในหมู่บ้าน เคยเป็นครู เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเป็นจิตอาสาที่ช่วยเหลือผู้คนมากมาย เดิมทีครูเดียวดายและสาวคนรัก ตั้งใจจะมีงานฉลองมงคลสมรสกันในช่วงปลายปี 2568 นี้ หลังจากที่ทั้งคู่จีบกันอยู่ 2 ปี จึงตกลงคบหากันเป็นแฟน กระทั่งได้เข้าพิธีหมั้นกันเมื่อต้นปี แต่สุดท้ายครูเดียวดายกลับต้องมาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถกระบะพลิกค่ำ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
พี่ชายครูเดียวดายบอกว่า “ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ครูเดียวดาย ได้โอนเงินให้แฟนสาว 60,000 บาท บอกว่าให้ไปซื้อทองใส่ ถ้าใส่ไม่ได้ก็ให้ลูกใส่ บอกว่าลุงซื้อให้ ซึ่งที่พูดแบบนั้นเพราะเดียวดายเป็นคนอารมณ์ดี พูดเหมือนในคำร้องเพลงของหมั้นเป็นของขวัญ ของศิลปิน “ศร สินชัย” จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น” ส่วนเจ้าสาวเสียใจมาก หลั่งน้ำตาบอกกับครูเดียวดายผ่านรูปหน้าโลงศพว่า “คงจะได้ซื้อให้ลูกจริงๆ”

หลังเกิดเรื่องเศร้า ทางญาติๆ ทั้งฝ่ายเจ้าสาวเจ้าบ่าวได้พูดคุยกัน ก่อนจะตกลงใจสานฝันให้กับ “ครูเดียวดาย” ที่จากไป จะได้ไม่มีห่วงและไปภพภูมิที่ดี จึงได้จัดงานแต่งงานขึ้นที่บ้านก่อนวันเผาศพ 1 วัน ในวันฌาปนกิจศพ ครอบครัวได้เคลื่อนศพไปตั้งที่ฌาปนสถาน เมรุวัดเลียบโพธิ์ทอง บ้านวังผือ ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน
เรื่องเศร้า เจ้าสาวที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์หน้าโลงศพวานนี้ แต่วันนี้ต้องมาเดินถือรูปเจ้าบ่าวไปที่วัดเพื่อทำการฌาปนกิจศพ พระสงฆ์ทำพิธีทางศาสนา พ่อแม่ญาติพี่น้องและชาวบ้านหลายร้อยคนมาร่วมไว้อาลัย ร่ำไห้กันปานว่าจะขาดใจเมื่อต้องสูญเสียลูกหลานคนดีๆ ไป และเห็นใจในความรักที่ต้องพลัดพราก

ทันทีที่เคลื่อนศพครูเดียวดาย มาถึงเมรุวัดเลียบโพธิ์ทอง พระสงฆ์ก็ได้เริ่มทำพิธีตามความเชื่อ คือ พิธีตัดกรรม ตัดสายสัมพันธ์ เพื่อให้ดวงวิญญาณของผู้วายชนม์หมดห่วงในเรื่องต่างๆ กับทางฝ่ายภรรยา ที่เข้าวิวาห์ในพิธีการจัดงานศพ โดยหลังจากที่พระสงฆ์ได้ทำการสวด ก็ได้ใช้มีดตัดสายสิญจน์ที่โยงจากโลงศพมาที่เจ้าสาว ก่อนจะใช้น้ำมนต์เทราดตัว แล้วให้ทางเจ้าสาวเดินออกจากวัดไป ห้ามหันหลังกลับมาโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีความห่วงหรือยังมีความสัมพันธ์กันอยู่ตามความเชื่อ จากนั้นก็เข้าสู่พิธีการวางดอกไม้จันทน์และทำพิธีฌาปนกิจ

แม้ว่าครูเดียวดายจะจากไปแล้ว แต่ทางพ่อแม่และญาติพี่น้องก็ยังคงรักลูกสะใภ้คนนี้เหมือนลูกหลานแท้ๆ เพราะเจ้าสาวเป็นคนดี นิสัยใจคอโอบอ้อมอารี มีอัธยาศัยดีเป็นที่รักใคร่ของทุกคน ขณะที่เจ้าสาวเองแม้จะยังอยู่ในช่วงเศร้าโศก แต่ก็ทำใจต้องยิ้มสู้ เพื่อคนที่รักจะได้ไปสู่สุคติ ไม่ต้องมีห่วงอีกต่อไป ความรักและสิ่งดีๆ ที่ได้เคยทำร่วมกัน จะอยู่ในความทรงจำและคิดถึงกันตลอดไป.
นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : จักรพันธุ์ นาทันริ จ.ขอนแก่น
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..