ทั้งนี้ ใน “ยุคสังคมผู้สูงอายุ” ก็น่าคิดว่า “ไทยมีความต้องการแรงงานกลุ่มสูงวัยแค่ไหน?” หรือ “ต้องการสเปคแบบใด?” ซึ่งถ้าตีโจทย์ได้ดีก็น่าจะมีส่วน “ส่งผลดีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทย” จากการ “ส่งเสริมการมีงานทำของประชากรวัยเกษียณ”
ผู้สูงวัยยังมีงานทำ–มีรายได้ “มีผลดี”
ดี “ต่อคุณภาพชีวิต สังคม เศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ตาม กับเรื่องนี้กรณีนี้ก็มีคำถาม “น่าคิด” ว่า…แล้ว “สเปคแรงงานสูงวัยที่ตลาดต้องการควรเป็นเช่นไร?” ซึ่งทาง รัตนศักดิ์ เจริญทรัพย์ ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิจัยประชากรและสังคม สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ได้พยายามค้นหาคำตอบ และสะท้อนข้อมูลไว้ในบทวิเคราะห์ “ผู้ประกอบการกำลังมองหาแรงงานสูงอายุไทย…แบบไหน?”ที่เผยแพร่ไว้ทาง เว็บไซต์เดอะประชากร ซึ่ง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูล…

รัตนศักดิ์ เจริญทรัพย์
ทั้งนี้ ทาง รัตนศักดิ์ ได้สะท้อนเรื่องนี้ไว้ โดยสังเขปมีว่า.. ทุกวันนี้เวลาออกไปนอกบ้าน สังคมคงคุ้นกับภาพ “ผู้สูงวัยให้บริการ” หรือ “คนทำงานสูงอายุ” มากขึ้น เช่น บริเวณแคชเชียร์คิดเงินตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือตามพื้นที่ศูนย์อาหาร รวมถึงตามลานจอดรถ ซึ่งเราอาจสังเกตความสูงอายุได้จากลักษณะภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผมสีขาว ริ้วรอยบนผิวหนัง การเคลื่อนไหว หรือน้ำเสียงของคนทำงานสูงอายุเหล่านี้ ดังนั้นจึงเกิดความสงสัยว่า…นอกจากผู้สูงอายุจะมาทำงานหรือให้บริการที่เคยเห็นแล้ว ผู้สูงอายุไทยยังมีการทำงานด้านใดอีกบ้าง? และงานเหล่านั้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง? …นี่เป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถาม
จากคำถามข้างต้น ทาง รัตนศักดิ์ ระบุไว้ว่า… เพื่อคลายความสงสัยนี้ จึงค้นข้อมูลเกี่ยวกับ “การทำงานของผู้สูงอายุในประเทศไทย” ที่จัดทำไว้โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่ใช้ข้อมูลด้านการสำรวจภาวะการมีงานทำของประชากรไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2567 และการสำรวจแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2567 ที่พบข้อมูลว่า… ผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 5.3 ล้านคนยังคงทำงานอยู่โดยคิดเป็น 37.2% ของประชากรสูงอายุในไทยจำนวน 14.1 ล้านคน …นี่เป็นตัวเลขสถิติจำนวน
และเมื่อจำแนก “ชนิดของงานที่ทำ” พบว่า…งานที่แรงงานสูงอายุส่วนใหญ่ทำ แบ่งออกได้ดังนี้… 1.ทำงานส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง อัตราอยู่ที่ 64.4% 2.ผู้ช่วยธุรกิจในครัวเรือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง อยู่ที่ 19.7% 3.ทำงานเป็นลูกจ้าง อยู่ที่ 12.4% และนอกจากนั้นยังพบว่า… แรงงานสูงอายุส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม 57.7% รองลงมาได้แก่ ภาคบริการ กับการค้า 32.4% และ ภาคการผลิต 9.9% …เหล่านี้เป็นตัวเลขน่าสนใจเกี่ยวกับ “ชนิดของงานที่ผู้สูงอายุทำ”
ขณะที่ข้อมูลด้าน “การจ้างงานแรงงานสูงอายุ” นั้น การจ้างงานเกิดขึ้นจากการพบกันระหว่างความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการ กับความต้องการทำงานของผู้สูงอายุ โดยประเด็นที่ รัตนศักดิ์ ให้ความสนใจก็คือคำถามที่ว่า…ปัจจุบัน ผู้ประกอบการต้องการแรงงานสูงอายุไปทำงานชนิดใด? และต้องการแค่ไหน? ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลใน เว็บไซต์หางานที่ส่งเสริมโดยหน่วยงานภาครัฐ พบว่า… ตำแหน่งงานว่างสำหรับผู้สูงอายุ ณ วันที่ 18 เม.ย. 2568 มีประกาศรับสมัครคนที่อายุตั้งแต่ 56 ปีเป็นต้นไป 82 ประกาศ มีตำแหน่งงานที่เปิดรับ 1,962 ตำแหน่ง จาก 66 ผู้ประกอบการ

ส่วน “ประเภทกิจการ” ที่ต้องการแรงงานสูงอายุนั้น พบว่า… เกือบทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการภาคบริการและการค้า มีทั้งบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่มีสาขา รวมถึงบริษัทบริหารแรงงาน (Outsource) ที่ต้องการแรงงานไปให้บริการผู้ประกอบการอีกต่อ ขณะที่ลงลึกด้าน “ตำแหน่งงาน” พบว่า… บาริสต้า–พนักงานร้านกาแฟเป็นตำแหน่งงานที่ต้องการผู้สูงอายุไปทำงานมากที่สุด รองลงมาคือ พนักงานประจำร้านและสาขา ผู้ช่วยพนักงานขาย พนักงานจัดเรียงสินค้า พนักงานกระจายสินค้า พนักงานเติมสินค้า พนักงานบริการลูกค้า …นี่เป็นข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับลักษณะงาน
นอกจากนั้นยังมีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ “ประเภทการจ้างงาน” ที่พบว่า… ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นิยมจ้างผู้สูงอายุในรูปแบบงานประจำ อยู่ที่ 66.5% รองลงมา งานชั่วคราว และพาร์ทไทม์ อยู่ที่ 33.5% ส่วน “อัตราค่าจ้างแรงงานสูงอายุ” ค่าจ้างต่อวันอยู่ที่ 300-600 บาท ซึ่ง ส่วนมากผู้สูงอายุจะได้รับข้อเสนอจากผู้ประกอบการให้รับค่าจ้างรายวันมากที่สุดรองลงมาคือ จ่ายค่าจ้างรายชั่วโมง โดยอยู่ที่ชั่วโมงละ 40-50 บาท ขณะที่ งาน รปภ. เป็นตำแหน่งงานที่ได้รับค่าจ้างรายวันสูงที่สุดในกลุ่มแรงงานสูงอายุ …เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ฉายภาพ “ตลาดงานสูงวัย”ในตอนนี้
ทั้งนี้ รัตนศักดิ์ เจริญทรัพย์ ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิจัยประชากรและสังคม สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ยังระบุไว้ด้วยว่า… แม้ความต้องการแรงงานสูงอายุดังกล่าวจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต้องการทั้งหมด แต่ก็น่าจะทำให้สังคมเห็นภาพความต้องการแรงงานสูงวัยในไทยในปัจจุบัน ซึ่ง เป็นหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องที่จะต้องมียุทธศาสตร์ มีแผนส่งเสริม ทั้งในฝั่งผู้สูงอายุ เช่น การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพและทักษะแรงงาน รวมถึงสร้างนโยบายจูงใจผู้ประกอบการให้เลือกใช้แรงงานสูงวัย …ซึ่งการทำให้ซัคเซสในวงกว้างก็จะดีในหลายมิติ
ทำให้ “ผู้สูงวัยมีรอยยิ้มที่ยังมีงานทำ”
เป็นการ “รองรับสังคมสูงวัยในไทย”
ก็จะ “ดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยด้วย”.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์